เมื่อพูดถึงเชื้อราในช่องคลอด สาว ๆ หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามีลักษณะเป็นอาการอย่างไร และไม่แน่ใจว่าตนเองเคยเป็นหรือเปล่า แต่ถ้าพูดถึงอาการตกขาว เราเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนจะต้องนึกภาพออกอย่างแน่นอน ซึ่งเชื้อราในช่องคลอดก็คือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการตกขาวนี่แหละค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดหายเองได้ไหม?
ในกรณีที่สาว ๆ มีอาการไม่รุนแรง ในบางรายอาจสามารถหายจากการติดเชื้อราในช่องคลอดได้เองโดยที่ไม่ต้องรักษาด้วยยาค่ะ แต่ก็มักจะกลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ เพราะไม่ได้ดูแลรักษาที่ต้นตออย่างถูกวิธี ดังนั้นหากสาว ๆ เป็นเชื้อราในช่องคลอดจะแนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์จะดีกว่าค่ะ เพื่อที่จะได้รู้ถึงสาเหตุ เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม และลดโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำให้มากที่สุดค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดเกิดจากอะไร?
เชื้อราในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อโรคชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “Candida albicans” เป็นเชื้อโรคที่สามารถพบได้ทั่วไปค่ะ โดยเชื้อโรคตัวนี้จะชอบสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นเป็นพิเศษ ซึ่งช่องคลอดของคนเราก็เป็นอวัยวะที่มีความชื้นอยู่แล้ว บวกกับประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน จึงทำให้ผู้หญิงไทยมีโอกาสติดเชื้อราได้ง่ายกว่าปกติ แม้ว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก็ตามค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดมีอาการอย่างไร?
สาว ๆ ที่ติดเชื้อราในช่องคลอดในระยะแรก ๆ จะไม่มีอาการแสดงค่ะ แต่เมื่อเชื้อราเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา ดังนี้ค่ะ
มีอาการคันมาก ซึ่งบางรายอาจคันมากจนทนไม่ไหวเลยค่ะ
มีอาการแสบร้อน บวม แดง
มีอาการปวดที่บริเวณช่องคลอด
มีผื่น
ตกขาวเป็นสีเหลือง และมีกลิ่นเหม็น
ในบางราย ตกขาวอาจมีสีขาวขุ่น ๆ หรือมีลักษณะคล้ายแป้งก็ได้ค่ะ
อาการเหล่านี้ ในบางครั้งยังอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ได้ด้วยนะคะ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ก็ควรที่จะรีบไปพบคุณหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อตรวจดูว่าเป็นโรคอะไร และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมจะดีที่สุดค่ะ สำหรับสาว ๆ ท่านใดที่ต้องการตรวจคัดกรองโรคทางนรีเวชต่าง ๆ สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และทักแชทเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม ได้เลยค่ะ จะเจ้าหน้าที่ของเราคอยให้บริการอยู่ ที่สำคัญคลินิกของเราตรวจภายในโดยคุณหมอผู้หญิงที่ใจดีมาก ๆ ไม่ต้องกลัวเขินอายค่ะ ทักมาได้ตลอดเลยนะคะ ☺️
เป็นเชื้อราในช่องคลอด อันตรายไหม
อาการเชื้อราในช่องคลอดไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือทำให้ตั้งครรภ์แล้วลูกออกมาพิการ แต่จะส่งผลกระทบต่อการคุณภาพชีวิตเป็นหลักค่ะ เพราะจะทำให้เกิดอาการคันจนต้องไปเกา และถ้ายิ่งสาว ๆ ไปเกามาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อตามมา ก็จะยิ่งทรมานเพิ่มขึ้นค่ะ
เป็นเชื้อราในช่องคลอดมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ อีกทั้งยาต้านเชื้อราบางตัวอาจไปทำให้อุปกรณ์ช่วยคุมกำเนิดเสื่อมประสิทธิภาพลง และมีความเสี่ยงสูงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดรักษาอย่างไร?
วิธีการรักษาเชื้อราในช่องคลอด คุณหมอจะทำการตรวจก่อนว่าเป็นเชื้อราในช่องคลอดจริง ๆ หรือเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น หูดหงอนไก่ เริมที่อวัยวะเพศหญิง หรือหนองในผู้หญิง ด้วยการตรวจภายในเพื่อประเมินสภาพอาการ และตรวจ STD ผู้หญิงค่ะ
หลังจากนั้นก็จะจ่ายยารักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งมีทั้งยาทาเฉพาะที่ ยาเหน็บ และยารับประทาน รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลน้องสาวอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกค่ะ
ตัวอย่างยารักษาเชื้อราในช่องคลอด
ยาปฏิชีวนะในรูปแบบรับประทาน เช่น ยาฟลูโคนาโซล (Fluconazole)
ยาเหน็บฆ่าเชื้อราในช่องคลอด เช่น ยาคลอไตรมาโซล (Clotrimazole) ยาไมโคโนโซล (Miconazole)
ยาทาเฉพาะที่เพื่อต้านเชื้อรา หรือทาเพื่อลดอาการคัน
เป็นเชื้อราในช่องคลอดกี่วันหาย
หากไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ส่วนใหญ่จะหายได้ภายใน 1 - 2 สัปดาห์ค่ะ แต่ในรายที่มีการติดเชื้อรารุนแรงอาจใช้ระยะเวลานานกว่านั้น
สามารถซื้อยารักษาช่องคลอดอักเสบด้วยตัวเองได้ไหม
ไม่แนะนำให้ซื้อยารักษาช่องคลอดอักเสบด้วยตัวเองค่ะ เนื่องจากแต่ละคนจะมีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบแตกต่างกัน จำเป็นต้องให้สูตินรีแพทย์ตรวจและจ่ายยารักษาให้เหมาะกับแต่ละคน การที่เราซื้อยามารักษาด้วยตนเอง อาจทำให้รักษาไม่ถูกวิธี ทำให้อาการแย่ลง เป็นโรคเรื้อรัง หรือเชื้อดื้อยาได้ค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดห้ามกินอะไรบ้าง
ในช่วงที่สาว ๆ กำลังเข้ารับการรักษาเชื้อราในช่องคลอด แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารที่เชื้อราชอบ เช่น แป้งขัดขาว น้ำตาล น้ำผลไม้ ขนมหวาน อาหารแปรรูป นมวัว รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ค่ะ
ตกขาวจากเชื้อรา หายเองได้ไหม
หากติดเชื้อไม่รุนแรง อาจสามารถหายเองได้ค่ะ แต่ถ้าสาว ๆ อาการไม่ดีขึ้น ติดเชื้อรุนแรง กลับมาเป็นซ้ำภายในสองเดือนหลังการรักษา หรือเป็นเชื้อรา 4 ครั้งขึ้นไปต่อปี แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม จะดีที่สุดค่ะ
เชื้อราในช่องคลอดสามารถป้องกันได้ไหม?
สาว ๆ สามารถป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอดได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่คับเกินไป
ไม่ปล่อยให้บริเวณปากช่องคลอดชื้นแฉะ และหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแล้ว ควรใช้ทิชชู่ซับให้แห้งทุกครั้ง
หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด และการสวนล้างช่องคลอด
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่เกณฑ์มาตรฐาน เพราะผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ หรือเป็นโรคอ้วน จะมีความเสี่ยงที่บริเวณปากช่องคลอดอับชื้นได้ง่ายกว่าปกติค่ะ
ตรวจภายในเป็นประจำทุกปี
เชื้อราในช่องคลอด ติดต่อไหม
เชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่ภาวะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าสามารถติดต่อได้ หรือไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าคู่รักมีอาการเชื้อราในช่องคลอด อีกฝ่ายก็ควรที่จะสังเกตอาการตนเองด้วย ถ้าพบว่ามีอาการผิดปกติที่เข้าข่ายเป็นเชื้อรา ก็รักษาไปพร้อม ๆ ได้เลยค่ะ
สรุปค่ะ 😊
เชื้อราในช่องคลอดเกิดจากการติดเชื้อโรค Candida albicans ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่ร้อนชื้น การดูแลรักษาความสะอาดน้องสาวให้ดีและแห้งอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้ชื้นแฉะ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเชื้อราในช่องคลอดจะสามารถหายเองได้ในบางราย แต่ก็มีสาว ๆ หลายคนที่กลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ เพราะดูแลรักษาไม่ถูกวิธี การไปปรึกษาสูตินรีแพทย์และเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำทุกปี จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยดูแลรักษาอาการเชื้อราในช่องคลอด รวมถึงโรคทางนรีเวชอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
Comentários