โรคหูดหงอนไก่ (Genital Wart, Condyloma Acuminata) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังคงพบได้บ่อยในปัจจุบัน แม้จะมีการรณรงค์ให้ป้องกันดีอย่างไรก็ตาม เพราะผู้ที่ติดเชื้อในระยะแรก ๆ มักไม่แสดงอาการอะไรเลย ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และติดต่อได้ง่ายมาก ๆ กว่าที่เราจะรู้ตัวก็มีตุ่มนูนขึ้นมาเสียแล้ว!
สำหรับสาว ๆ ที่เป็นโรคหูดหงอนไก่อยู่ ไม่ว่าจะเป็น หูดหงอนไก่ในช่องคลอด หรือหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงแค่เรารักษาอย่างตรงจุด ซึ่งแฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้สรุปข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับหูดหงอนไก่ผู้หญิงมาให้แล้วค่ะ อ่านได้ที่บทความนี้เลย
บทความนี้ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (คุณหมอชะเอม)
ทำความรู้จักกับโรคหูดหงอนไก่ (Genital Wart)
โรคหูดหงอนไก่ คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV สามารถเป็นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่จะพบในผู้ใหญ่ที่อยู่ในวัยเจริญพันธ์ุมากกว่า เพราะเชื้อชนิดนี้จะชอบอยู่บริเวณที่อับชื้นอย่างอวัยวะเพศ ขาหนีบ หรือทวารหนัก และสามารถติดต่อผ่านการสัมผัส หรือการมีเพศสัมพันธ์ได้ ไม่ว่าจะป้องกันด้วยถุงยางอนามัย หรือไม่ก็ตาม
โรคหูดหงอนไก่นั้น เมื่อเป็นแล้วจะทำให้เกิดรอยโรค หรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ อย่างก้อน หรือติ่งเนื้อยื่นออกมาจากผิวหนัง มีสีและรูปทรงคล้ายกับหงอนไก่ และส่งผลให้เกิดอาการคัน แสบร้อน และตกขาวผิดปกติตามมา จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รักษาให้หายได้ แต่เชื้อไวรัส HPV ที่ติดเข้าไปจะยังคงอยู่ในร่างกายตลอดไปค่ะ
โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง เกิดจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้ติดต่อกันได้ง่ายมาก ๆ ก็เพราะว่า โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิงเกิดจากการติดเชื้อฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส (Human papillomavirus) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “เชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)” ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ถ่ายทอดถึงกันได้ง่ายมาก ๆ โดยที่ผู้ให้เชื้ออาจจะไม่มีอาการแสดงอะไรเลย ส่วนผู้ที่ได้รับเชื้อก็อาจใช้เวลานานมากหลายเดือนถึงหลายปีกว่าจะแสดงอาการค่ะ
สำหรับเชื้อไวรัสเอชพีวีที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นั้น 90% จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์ 6 และ 11 ค่ะ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสเอชพีวีในกลุ่มความเสี่ยงต่ำที่ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง แต่ก็มีบางคนที่อาจเกิดมีการติดเชื้อร่วมกับเชื้อไวรัสเอชพีวีอื่น ๆ ที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสเอชพี
การมีเพศสัมพันธ์ ทั้งทางช่องคลอด และทวารหนัก ทั้งโดยป้องกันด้วยถุงยางอนามัย และไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย เพราะเชื้อไวรัสเอชพีวีสามารถกระจายอยู่ได้ทั่วไปเลยค่ะ
เชื้อไวรัสเอชพีวีสามารถติดต่อได้โดยไม่ต้องมีการสอดใส่ด้วยค่ะ แต่จะพบได้น้อยมาก
การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และสูบบุหรี่เป็นประจำทุกวัน จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดรอยโรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง และทำให้อาการรุนแรง
โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง อาการเริ่มต้นเป็นอย่างไร?
โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง อาการอาจแสดงได้ตั้งแต่ 1 เดือน - 2 ปีหลังจากที่ได้รับเชื้อมาค่ะ แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 - 4 เดือน โดยจะมีลักษณะอาการดังนี้ค่ะ
ไม่แสดงอาการอะไรเลย
มีก้อน หรือติ่งเนื้อยื่นออกมาจากผิว โดยจะมีสีคล้ายสีของผิวหนัง กระจายออกไปทางด้านบนคล้ายหงอนไก่ หรือดอกกะหล่ำ โดยสามารถพบได้ทั้งในบริเวณปากมดลูก ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และรูทวารหนักค่ะ
มีอาการคันเล็กน้อย ถึงคันมาก
มีก้อนโตมากจนอุดกั้นช่องคลอด
มีเลือดออกจากก้อน
มีอาการตกขาวผิดปกติ
มีอาการแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ
โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง มักพบในตำแหน่งใด?
หูดหงอนไก่ผู้หญิงสามารถพบได้ที่บริเวณปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ทวารหนัก และบริเวณฝีเย็บ โดยหูดอาจมีขนาดเล็ก ๆ หรือขาดใหญ่ก็ได้ และจะโตเร็วกว่าปกติถ้ามีการตั้งครรภ์ค่ะ
ทำอย่างไรเมื่อพบว่าตัวเองเป็นหูดหงอนไก่
สำหรับสาว ๆ ที่เป็นโรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง ควรไปพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัย และหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับตนเองค่ะ ซึ่งการที่เราเข้ารับการรักษาอย่างตรงจุดตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิงรุนแรง หรือลุกลามมากขึ้นค่ะ
โดยที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เราจะให้บริการรักษาโรคทางนรีเวชโดยหมอสูตินรีเวชผู้หญิง สาว ๆ ที่รู้สึกเขินอายไม่ต้องกังวลเลยค่ะ สามารถเข้ามาใช้บริการที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกอย่างสบายใจได้เลย
รักษาหูดหงอนไก่ผู้หญิงอย่างไร?
วิธีรักษาหูดหงอนไก่ ทั้งในขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทั้งหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศและหูดหงอนไก่ในช่องคลอด คุณหมอจะทำการจี้หูดด้วยยา สัปดาห์ละ 1 ครั้งจนกว่ารอยโรคจะหายไปค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 4 - 5 ครั้ง พร้อมกับแนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV เพื่อลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ยังไม่ติดค่ะ
สาว ๆ ท่านใดที่สนใจใช้บริการรักษาหูดหงอนไก่ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก สามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และทักแชทเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม จะเจ้าหน้าที่ของเราคอยให้บริการอยู่ ทักมาได้ตลอดเลยนะคะ ☺️
วิธีป้องกันโรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า โรคหูดหงอนไก่ผู้หญิงเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ดังนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นสิ่งแรกเพื่อป้องกันโรคนี้ก็คือการฉีดวัคซีน HPV ค่ะ โดยจะแนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ เพราะจะมีสายพันธุ์ 6 และ 11 ที่เป็นสายพันธุ์หลักของโรคนี้รวมอยู่ด้วยค่ะ
นอกจากการฉีดวัคซีน HPV แล้ว สาว ๆ ก็ควรที่หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ และเข้ารับการตรวจสุขภาพภายในผู้หญิงทุก ๆ ปี เพราะโรคหูดหงอนไก่ผู้หญิง เป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการ และสังเกตได้ยาก การตรวจเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้เรารู้เท่าทันโรคค่ะ
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาหูดหงอนไก่
เพื่อให้สาว ๆ เข้าใจเกี่ยวกับโรคหูดหงอนไก่มากขึ้น เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาหูดหงอนไก่มาให้แล้ว สามารถดูคำถามและคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ
1. หูดหงอนไก่ผู้หญิงอันตรายไหม?
แม้ว่าหูดหงอนไก่ผู้หญิงจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตอย่างมาก โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ปล่อยโรคทิ้งไว้ ไม่รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จนทำให้อาการรุนแรงขึ้น ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคหูดหงอนไก่ก็ควรที่จะรีบรักษาให้เร็วที่สุดจะดีกว่าค่ะ
2. ดูยังไงว่าเป็นหูดหงอนไก่?
คนที่เป็นหูดหงอนไก่อาจจะมีอาการแสดง หรือไม่มีอาการแสดงก็ได้ค่ะ โดยในรายที่มีอาการแสดง จะมีก้อน หรือติ่งเนื้อยื่นออกมาจากผิว โดยอาจเป็นหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ หรือหูดหงอนไก่ในช่องคลอดก็ได้ นอกจากนี้ก็จะมีอาการคัน ตกขาวผิดปกติ หรือแสบร้อนที่อวัยวะเพศร่วมด้วยค่ะ
3. เป็นโรคหูดหงอนไก่มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?
แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายดี เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นค่ะ
4. เป็นหูดที่อวัยวะเพศ รักษายังไง?
ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เราจะรักษาหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ และหูดหงอนไก่ในช่องคลอด ด้วยการจี้หูดด้วยยา สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำติดต่อกันจนกว่ารอยโรคจะหายไป ร่วมกับฉีดวัคซีน HPV ค่ะ
5. หูดหงอนไก่ใช้เวลารักษานานไหม?
โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 4-5 สัปดาห์ กว่ารอยโรคจะหายไปค่ะ
6. โรคหูดหงอนไก่หายเองได้ไหม?
รอยโรคของหูดหงอนไก่อาจสามารถหายได้เอ ในคนที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง แต่เชื้อไวรัส HPV จะยังคงอยู่ในร่างกายของเราตลอดไป อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เข้ารับการรักษากับแพทย์จะดีกว่า เพราะจะช่วยย่นระยะเวลาให้หายเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนค่ะ
7. เมื่อเป็นหูดหงอนไก่ ห้ามกินอะไร?
โรคหูดหงอนไก่จะเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งจะต้องใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้ามาจัดการ ดังนั้นเมื่อเป็นโรคหูดหงอนไก่ จึงไม่ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น แอลกอฮอล์ อาหารแปรรูป เนื้อสัตว์ดิบ หรือของหมักดองค่ะ
8. รักษาหูดหงอนไก่แพงไหม?
ไม่แพงเลยค่ะ ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกเราให้บริการตรวจและรักษาหูดหงอนไก่ เฉพาะผู้หญิง ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาทค่ะ
9. รักษาหูดหงอนไก่ใช้ยาอะไร?
แพทย์จะจี้หูดด้วยสารเคมี เช่น กรดไตรคลอโรอะเซติค (Trichloroacetic acid) และ โพโดฟิลลีน (Podophyllin) ร่วมกับทายาบริเวณหูดอย่าง อิมิควิโมดครีม ค่ะ
10. หูดหงอนไก่ติดต่อทางน้ำลายได้ไหม?
มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอค่ะ
11. ติดเชื้อไวรัสหูดหงอนไก่กี่วันแสดงอาการ?
อาการอาจแสดงได้ตั้งแต่ 1 เดือน - 2 ปีหลังจากที่ได้รับเชื้อมา แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 - 4 เดือนค่ะ
12. เป็นหูดหงอนไก่ถึงตายไหม?
โรคหูดหงอนไก่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิต แต่ก็สามารถความเจ็บปวดและส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ได้ อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน HPV 4 สายพันธ์ุ หรือวัคซีน HPV 9 สายพันธ์ุ ได้ค่ะ อีกทั้งเมื่อเป็นแล้วก็สามารถรักษาให้หายได้ สาว ๆ ที่เป็นโรคนี้อยู่ ไม่จำเป็นต้องกลัวนะคะ มาพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาได้เลย
13. หูดหงอนไก่ในช่องคลอด รักษายังไง?
หูดหงอนไก่ในช่องคลอด จะมีวิธีรักษาเหมือนกับหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศเลยค่ะ โดยแพทย์จะทำการจี้หูดด้วยยาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำติดต่อกันจนกว่าจะหายดีค่ะ
14. หูดหงอนไก่สามารถลามได้ไหม?
หากปล่อยทิ้ง ไม่ทำการรักษา หูดหงอนไก่อาจมีขนาดโตขึ้นเรื่อย ๆ และลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียงได้ค่ะ
15. โรคหูดหงอนไก่กับ HPV มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
โรคหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6 และ 11 ค่ะ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสเอชพีวีในกลุ่มความเสี่ยงต่ำที่ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง สามารถป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน HPV ที่ครอบคลุมสายพันธ์ุนี้ค่ะ
สรุปค่ะ 😊
หูดหงอนไก่ผู้หญิง หูดหงอนไก่ในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ไม่ว่าจะป้องกันด้วยถุงยางอนามัย หรือไม่ป้องกันก็ตาม ซึ่งโรคนี้ในระยะเริ่มต้นจะไม่ค่อยแสดงอาการ กว่าจะรู้ตัวก็มีอาการรุนแรงแล้วค่ะ ดังนั้นสาว ๆ จึงควรที่จะตรวจภายในทุก ๆ ปี เพื่อให้รู้เท่าทันโรค พร้อมกับฉีดวัคซีนป้องกัน HPV เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และเมื่อเป็นแล้วก็ควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อรักษาหูดหงอนไก่อย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยลดความรุนแรงของโรค ยังช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ด้วยค่ะ
Comments