โรคหนองใน (Gonorrhoeae) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะพบในกลุ่มวัยหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ยังรักสนุกอยู่ จัดเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ควรเฝ้าระวังอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้กว่าที่จะมาหาหมอ ก็มักจะมีอาการรุนแรงกันแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้
เพื่อให้สาว ๆ สามารถรับมือกับโรคหนองในได้อย่างเหมาะสม แฮปปี้เบิร์ธคลินิกจะพาไปทำความรู้จักกับโรคหนองในผู้หญิงโดยละเอียดเอง ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีรักษา ไปจนถึงวิธีป้องกัน ตามไปดูกันเลยค่ะ
บทความนี้ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (คุณหมอชะเอม)
โรคหนองใน คืออะไร?
โรคหนองใน หรือที่นิยมเรียกกันว่า “โรคหนองในแท้” เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรียโกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น ทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก แม้จะมี หรือไม่มีการหลั่งน้ำเชื้อก็ตามค่ะ
นอกจากโรคหนองในแท้แล้ว ยังมีโรคหนองในเทียมด้วย เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ Chlamydia Trachomatis หรือเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ นอกเหนือจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เป็นหนองในแท้ โดยจะทำให้เกิดอาการคล้ายกับหนองในแท้ แต่จะไม่รุนแรง และเป็นลักษณะของอาการหนองในเรื้อรังแทนค่ะ
โรคหนองในผู้หญิง ลักษณะอาการเป็นอย่างไร?
หลังจากที่ได้รับเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ไปแล้ว จะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-10 วันค่ะ โดยโรคหนองในผู้หญิงจะมีลักษณะอาการแตกต่างจากผู้ชายตรงที่อาจไม่แสดงอาการ หรือมีรอยโรคที่ไม่ชัดเจนได้ ในขณะที่ผู้ชายจะสามารถสังเกตอาการได้ชัดเจนเลย
ตัวอย่างอาการหนองในผู้หญิง
มีของเหลวออากมาจากช่องคลอดคล้ายกับตกขาว
ตกขาวผิดปกติ โดยอาจมีสีเหลือง สีขาว มีกลิ่นเหม็น หรือปริมาณมากกว่าปกติ
ประจำเดือนมาไม่ปกติ
รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สบายตัว และปวดท้อง
ปัสสาวะแสบขัด
เจ็บอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์
หากมีการติดเชื้อที่ทวารหนัก จะทำให้เกิดอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณทวารหนัก หรือมีน้ำสีเหลืองคล้ายหนองออกมาจากทางทวารหนักได้
ถึงแม้ว่าอาการหนองในผู้หญิง จะไม่สามารถสังเกตได้ชัดเจน แต่ก็ควรรีบไปรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้เชื้อลุกลามไปจนถึงมดลูกและท่อทางเดินรังไข่ แล้วทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่าง อุ้งเชิงกรานอักเสบ ปวดท้องเรื้อรัง ภาวะมีบุตรยาก หรือเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ค่ะ
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคหนองในผู้หญิง
สาว ๆ ที่เสี่ยงเป็นโรคหนองในผู้หญิง มีดังนี้
มีคู่นอนหลายคน หรือชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
มีคู่นอนที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย
มีประวัติเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอดีต
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคหนองในผู้หญิง
หากสาว ๆ พบว่าตัวเองมีอาการในกลุ่มโรคหนองใน หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เลยค่ะ ซึ่งจะสามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปส่งเพาะเชื้อค่ะ
ค่าบริการตรวจ STD รวมค่าบริการตรวจภายใน และค่าบริการคลินิกแล้ว (ราคา ณ มกราคม 2567)
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องการตรวจและรักษาโรคหนองใน ไม่ว่าจะเป็น หนองในแท้ หรือหนองในเทียม ก็สามารถซื้อแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สำหรับผู้หญิง จากแฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้เลยค่ะ ราคาค่าบริการเริ่มต้นที่ 3,500 บาท รวมค่าบริการทางการแพทย์ และค่าตรวจภายในเรียบร้อยแล้วค่ะ
ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เราให้บริการเฉพาะการตรวจ STD และโรคหนองใน ผู้หญิงเท่านั้น ดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกขั้นตอน คลินิกมีความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่าน นัดหมายล่วงหน้าได้ หากสนใจสามารถคิวออนไลน์ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม ได้เลยค่ะ
ผู้หญิงเป็นหนองในต้องรักษายังไง?
หากคุณหมอตรวจพบว่าเป็นโรคหนองใน ก็จะทำการรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะขนาดสูง ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบยารับประทานและยาฉีดค่ะ โดยการเข้ารับการรักษาเร็วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามากกว่า และในระหว่างที่ทำการรักษา คุณหมอจะให้งดการมีเพศสัมพันธ์ เพราะประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดจะลดลง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นด้วยค่ะ
รักษาหนองในผู้หญิง กี่วันหาย?
หลังจากฉีดยาปฏิชีวนะ และรับประทานยาปฏิชีวนะครบ 7 วันแล้ว แพทย์จะนัดกลับมาตรวจซ้ำเพื่อดูว่าหายจากการติดเชื้อหรือไม่ ถ้าไม่ให้หาย หรือมีอาการดื้อยาก็จะต้องทำการรักษาต่อ
แต่ถ้าไม่มีอาการใด ๆ ก็แสดงว่าหายดีแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็จะต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และมาตรวจติดตามอาการเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อให้มั่นใจจริง ๆ ว่าหายขาด และไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งค่ะ
วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคหนองในซ้ำอีก
วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคหนองในได้ดีที่สุดก็คือการงดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก ทางปาก แต่ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้
มีคู่นอนแค่คนเดียว และจะต้องตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครบเรียบร้อยแล้ว
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์
เข้ารับการตรวจสุขภาพ ตรวจภายใน และตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปี
ถ้าหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ ให้ไปหากคุณหมอทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดหมาย
ดูแลความสะอาดน้องสาว รวมถึงเสื้อผ้า และชุดชั้นในอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้อับชื้น
รับประทานยา หรือรับการรักษาจนครบตามแผนที่คุณหมอวางไว้
ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานด้วยตัวเอง เพราะจะเสี่ยงทำให้เกิดอาการดื้อยา และส่งผลให้รักษาได้ยากขึ้นด้วย
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหนองในผู้หญิง
เพื่อให้สาว ๆ เข้าใจเกี่ยวกับโรคหนองในผู้หญิงมากขึ้น แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหนองในผู้หญิงมาให้แล้ว สามารถไปดูคำถามและคำตอบได้เลยค่ะ
1. โรคหนองในสามารถหายเองได้ไหม?
โรคหนองในไม่สามารถหายได้ด้วยตัวเองค่ะ เมื่อเป็นแล้วจะต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานด้วยตัวเอง เพราะเสี่ยงใช้งานผิดวิธี และทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ค่ะ
2. หนองในกับตกขาวต่างกันยังไง?
โดยทั่วไป สีของตกขาวจะเป็นสีขาวขุ่น สีขาวเหลืองนิด ๆ หรือสีเหลืองนวล ๆ ซึ่งเป็นของเหลวที่จะถูกขับออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงทุกคนตามปกติ ไม่ได้ส่งผลผิดปกติอะไรต่อร่างกายค่ะ แต่ถ้าตกขาวมีสีเหลืองเขียว หรือสีอื่น ๆ หรือมีกลิ่นเหม็น อาจแสดงว่าเป็นหนองในได้ ซึ่งถือว่าไม่ปกติ จำเป็นที่จะต้องไปพบแพทย์ค่ะ
3. ยาฆ่าเชื้อแก้หนองในได้ไหม?
สามารถรักษาโรคหนองในได้ แต่จะต้องเป็นยาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้นนะคะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะฉีดยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะขนาดสูง เพื่อรักษาหนองในแท้ก่อน หลังจากนั้นจะให้ยาฆ่าเชื้อแบบรับประทาน เช่น Doxycycline หรือ Azithromycin มารักษาหนองในเทียมต่อที่บ้าน เนื่องจากทั้งสองโรคนี้มักเป็นร่วมกันค่ะ
4. หนองในกับเอดส์อันใช่อันเดียวกันไหม?
คนละอันกันค่ะ หนองในเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถรักษาให้หายขาดได้ ในขณะที่โรคเอดส์จะเป็นอาการระยะสุดท้ายของผู้ติดเชื้อ HIV ค่ะ
5. เป็นโรคหนองในผู้หญิงจะมีโอกาสติดเอดส์ไหม?
สาว ๆ ที่เป็นโรคหนองใน ไม่ว่าจะเป็น หนองในแท้ หรือหนองในเทียม หรือ STDs อื่นๆ จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอสไอวีได้มากกว่าปกติค่ะ
6. เป็นโรคหนองในต้องตรวจเลือดไหม?
ควรตรวจเลือดร่วมด้วย เพื่อตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสที่มักไม่แสดงอาการใด ๆ ค่ะ
7. เป็นโรคหนองในสามารถกินกาแฟได้ไหม?
ในระหว่างที่ทำการรักษาโรคหนองใน สามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษค่ะ
สรุปเรื่องโรคหนองในผู้หญิง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าจะช่วยให้สาว ๆ เข้าใจเกี่ยวกับโรคหนองในผู้หญิงกันมากขึ้น แต่สำหรับใครที่ยังสับสนอยู่ แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับการรับมือโรคนี้มาให้แล้วค่ะ
โรคหนองในผู้หญิงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae
หลังจากที่ติดเชื้อแล้ว จะใช้ระยะเวลา 1-10 วันในการฟักตัว
อาจแสดงอาการ หรือไม่แสดงอาการก็ได้ โดยตัวอย่างอาการหนองในผู้หญิงที่พบได้ เช่น ตกขาวผิดปกติ มีของเหลวออกมาจากช่องคลอด ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปัสสาวะแสบขัด เจ็บอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์
โรคหนองในไม่สามารถหายเองได้ เมื่อเป็นแล้วจะต้องรักษา ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะมีบุตรยาก หรือเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
การตรวจโรคหนองในผู้หญิงจะตรวจด้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปส่งเพาะเชื้อ
สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบยาฉีด และยารับประทาน
หากสาว ๆ คนไหนที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงเป็นโรคหนองในผู้หญิง อย่ารอช้า รีบนัดหมายเข้ามาพบ
คุณหมอได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม แฮปปี้เบิร์ธคลินิกยินดีที่จะช่วยแก้ปัญหาทุกเรื่องกวนใจของสาว ๆ ดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกขั้นตอน ไม่ต้องกลัวเขินอายเลยค่ะ