top of page

คลินิกสูตินรีเวช ฝากครรภ์ ตรวจภายใน อัลตราซาวด์
บ้านก้ามปูอโศก   รามคำแหง 26/1   ลาดกระบัง 54

ค้นหา

จิมิมีกลิ่นคาวเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ด้วยตนเองไหม ต้องรักษาอย่างไรดี?

  • รูปภาพนักเขียน: พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
    พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
  • 3 ธ.ค. 2565
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 14 ต.ค.


วิธีป้องกันน้องสาวมีกลิ่น

จิมิมีกลิ่นคาวเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน สาว ๆ ที่มีปัญหานี้ อาจกำลังรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจอยู่ใช่ไหมคะ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปค่ะ เพราะปัญหาน้องสาวมีกลิ่นคล้ายคาวปลา รวมถึงน้องสาวมีกลิ่นปลาเค็ม กลิ่นนมบูด และกลิ่นเหม็นเปรี้ยว สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากเราทราบสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด ซึ่งแฮปปี้เบิร์ธคลินิกจะพาคุณไปหาคำตอบเองค่ะ


สาเหตุจิมิมีกลิ่น เกิดจากอะไร?

จิมิมีกลิ่นคาว เป็นอาการผิดปกติที่มักจะมาพร้อมกับตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น และปัสสาวะแสบคัน จัดเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าช่องคลอดเกิดการติดเชื้อ หรือกำลังเกิดสิ่งผิดปกติบางอย่างอยู่ โดยอาจมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือภาวะผิดปกติก็ได้ ดังนี้


มีสุขอนามัยที่ไม่ดี

การไม่รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดจนทำให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บริเวณรอบ ๆ ปากช่องคลอด สามารถทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาวได้ เช่น

  • ไม่ทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ น้องสาว ทำให้มีสิ่งสกปรกหมักหมมจนเกิดการอักเสบ

  • ทำความสะอาดน้องสาวมากเกินไป มีการสวนล้างช่องคลอด จนทำให้ช่องคลอดขาดความสมดุล

  • ลืมเปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ขนน้องสาวเปียกชื้น อากาศถ่ายเทไม่ดี มีกลิ่นอับ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อปรสิต จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้น้องมีกลิ่นเหม็นบูด มีกลิ่นคาว และมีตกขาวที่ผิดปกติ ซึ่งมีหลายชนิดมาก เช่น

  • เชื้อไวรัส HPV ที่ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศหญิง

  • เชื้อไวรัส HSV ที่ทำให้เกิดโรคเริมที่อวัยวะเพศหญิง

  • เชื้อปรสิตทริคิเนลล่าสไปราลิส (Trichinella Spiralis) ที่ทำให้เกิดโรคทริโคโนสิส (Trichinosis)

  • เชื้อโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือการอักเสบในช่องคลอด


ภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรียวาไจโนสิส (Vaginosis)

เป็นภาวะที่เกิดจากปริมาณแบคทีเรียในช่องคลอดขาดความสมดุล ทำให้มีแบคทีเรียชนิดที่ไม่ดีมากเกินไป จนทำให้เกิดการอักเสบบริเวณช่องคลอด ซึ่งชนิดของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักก็คือวาไจโนสิสนั่นเอง


น้องสาวเรียบเนียนจนเกินไป

ขนบริเวณรอบ ๆ น้องสาว มีส่วนช่วยในการรองรับแรงกระแทก จัดเป็นด่านแรกที่ช่วยปกป้องน้องสาวจากเชื้อโรคต่าง ๆ ป้องกันการเกิดอาการระคายเคือง และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของสาวได้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม สาว ๆ หลายคนนิยมทำเลเซอร์กำจัดขนน้องสาว ซึ่งจะทำให้ไม่มีเกราะป้องกันชั้นดี และทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายนั่นเอง


รับประทานอาหารหมักดองเป็นประจำ

การรับประทานอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ปูดอง ปูเค็ม เป็นประจำ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการตกขาว และทำให้มีกลิ่นอับชื้นและไม่พึงประสงค์ตามมาได้ จึงควรรับประทานอย่างพอดี


ใส่เสื้อผ้ารัดรูปเป็นประจำ

การใส่เสื้อผ้ารัดรูปเป็นประจำ จะทำให้น้องสาวอับชื้นได้ง่ายมาก ๆ มีแรงเสียดสีต่อน้องสาว และขาหนีบ ซึ่งนอกจากจะทำให้มีกลิ่นแล้ว ยังทำให้บริเวณที่มีการเสียดสีมีผิวที่เข้มขึ้นด้วย


สาเหตุจิมิมีกลิ่นคาวอื่น ๆ ที่พบได้น้อย

นอกจากสาเหตุที่พบได้ทั่วไปแล้ว อาการน้องสาวมีกลิ่นคล้ายคาวปลา อาจเป็นสัญญาณผิดปกติของโรคที่สามารถพบได้น้อยมาก เช่น ลำไส้ที่ทวารหนักทะลุเข้าสู่ช่องคลอด (Rectovaginal Fistula) มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งในช่องคลอด



น้องสาวมีกลิ่น ตรวจที่คลินิกสูตินรีเวช


11 วิธีแก้จิมิมีกลิ่นคาว มีกลิ่นปลาเค็ม ด้วยตนเองแบบง่าย ๆ


หากสาว ๆ กำลังประสบปัญหาช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น แล้วกำลังมองหาวิธีแก้ธรรมชาติด้วยตนเองอยู่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจสร้างความระคายเคืองให้กับน้องสาว จะช่วยลดโอกาสในการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้มาก ยกตัวอย่างเช่น

  • ทำความสะอาดน้องสาวด้วยน้ำสะอาด และซับเบา ๆ ให้แห้ง ไม่ควรปล่อยให้ชื้นจนเกิดกลิ่นอับ

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม

  • หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด

  • สวมใส่ชุดชั้นในที่พอดีตัว และระบายอากาศได้ดี โดยอาจเลือกใช้กางเกงในที่ทำมาจากผ้าฝ้าย 100%

  • รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างจุลินทรีย์ดี เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือนัตโตะ เพื่อเข้าไปปรับสมดุลของแบคทีเรียบริเวณน้องสาวให้เป็นปกติ

  • หลีกเลี่ยงการรับประทานของหมักดอง เช่น ปลาร้า ปูดอง ปลาเค็ม เพราะจะกระตุ้นให้เกิดตกขาวมากกว่าปกติ

  • ลดการรับประทานอาหาร หรือขนมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายแบคทีเรียดีบริเวณน้องสาว พร้อมเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นเชื้อราที่จุดซ่อนเร้น ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาได้

  • ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุนบ่อยจนเกินไป เช่น กระเทียม หัวหอม แกงกะหรี่ ใบกะเพรา ถ้ารับประทานมากเกินไป อาจทำให้กลิ่นกระจายไปตามรูขุมขนทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วย

  • ลดการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีกรดด่างสูง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแดง ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารแปรรูป อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ น้ำอัดลม กาแฟ และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้สมดุลในร่างกายเปลี่ยนไป และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเชื้อโรคบริเวณจุดซ่อนเร้นได้

  • หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัย เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค และเกิดกลิ่นอับชื้น

  • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดแน่น ซึ่งอาจสร้างความระคายเคืองให้กับน้องสาวได้


เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ


ในบางครั้ง ปัญหาจิมิมีกลิ่นคาวอาจเกิดจากการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะถึงจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ หากสาว ๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วอาการไม่ดีขึ้น น้องสาวยังคงมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือมีตกขาวผิดปกติเหมือนเดิม ควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาอย่างตรงจุด ไม่แนะนำให้ซื้อยาฆ่าเชื้อมารับประทานด้วยตนเอง เพราะน้องสาวมีกลิ่นคล้ายคาวปลาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก การซื้อยาด้วยตนเองอาจทำให้รักษาไม่ตรงจุดได้


วิธีรักษาจิมิมีกลิ่นคาวทางการแพทย์


แนวทางการรักษาจิมิมีกลิ่นคาว มีกลิ่นปลาเค็ม หรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่น ในเบื้องต้นคุณหมอจะตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการก่อน โดยอาจแนะนำให้ตรวจภายใน หรือตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และหลังจากที่ทราบสาเหตุแล้ว ก็จะวางแผนการรักษาให้เหมาะสม เช่น


หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอด หรืออุ้งเชิงกราน 


คุณหมอจะให้รับประทานยาปฏิชีวนะ เช่น เมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ทินิดาโซล (Tinidazole) หรืออัลเบนนาโซล (Albendazole) เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของปรสิต


หากเกิดจากการติดเชื้อราในช่องคลอด 


คุณหมอจะรักษาด้วยการให้ยาต้านเชื้อรา (Antifungal Drug) เป็นหลัก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ยาเม็ดรับประทาน เช่น เมโทรนิดาโซล, ยาสอดเชื้อราในช่องคลอด เช่น คลอไตรมาโซล (Clotrimazole) หรือไมโคโนโซล (Miconazole), และครีมทาภายนอกบริเวณอวัยวะเพศเพื่อลดอาการคัน


หากเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


แนวทางการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่ จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่

  • การให้ยาปฏิชีวนะ สำหรับรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดเชื้อแบคทีเรีย หรือปรสิต เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม หรือเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) เป็นต้น

  • การให้ยาต้านไวรัสร่วมกับการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ สำหรับรักษาโรคเริม เนื่องจากเป็นโรคที่เมื่อรักษาให้หายดีแล้ว ผู้ป่วยจะยังมีเชื้อหลงเหลืออยู่ในร่างกาย แต่มีโอกาสแพร่เชื้อได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าหากร่างกายไม่แข็งแรง ก็จะทำให้กลับมาแสดงอาการอีกครั้งได้ค่ะ


“น้องสาวมีกลิ่นคาว อย่าซื้อยามาใช้เอง"

นอกจากจะรักษาไม่หายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการดื้อยาด้วย

บอกลาปัญหาน้องสาวมีกลิ่นเหม็น เข้ามาให้คุณหมอตรวจหาสาเหตุ และรักษาอย่างตรงจุดกันดีกว่าค่ะ”


หากเกิดจากมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งในช่องคลอด


คุณหมอจะส่งตรวจคัดกรองหาเซลล์มะเร็ง และรักษาตามอาการป่วยและระยะของมะเร็งค่ะ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ ตรวจหาระยะแพร่เชื้อของเซลล์มะเร็ง ผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก และทำเคมีบำบัด เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจปนอยู่ในกระแสเลือด และป้องกันการแพร่กระจายไปอวัยวะอื่นค่ะ แต่สาว ๆ อย่าเพิ่งวิตกกังวล แนะนำมาปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ


ตอบคำถามพบบ่อยของ “จิมิมีกลิ่นคาว”


หลังจากที่รู้แล้วว่าน้องสาวมีกลิ่นเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตนเอง และวิธีรักษาทางการแพทย์แล้ว สาว ๆ หลายคนคงจะรู้วิธีรับมืออาการน้องสาวมีกลิ่นเค็ม น้องสาวมีกลิ่นเหม็นได้เหมาะสมขึ้นแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยอยู่ แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการนี้ พร้อมคำตอบสั้น ๆ เข้าใจง่ายมาให้แล้วค่ะ


1. น้องสาวมีกลิ่นปลาเค็มเกิดจากอะไร?


สาเหตุหลักที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นเหม็นคล้ายปลาเค็ม จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยอาจพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวมีสีเทา ตกขาวมีลักษณะเหลวเป็นน้ำ และจะมีอาการรุนแรงขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์ หรืออยู่ในระหว่างที่มีประจำเดือน


2. มีตกขาวกลิ่นเหม็นเน่าเกิดจากอะไร?


มีหลายสาเหตุที่ทำให้ตกขาวมีกลิ่นเหม็น เช่น การสวนล้างช่องคลอด, การนอนแช่ในอ่างน้ำที่มีฟองสบู่มาก ๆ เป็นประจำ, การอับชื้นของชุดชั้นใน, การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย, การเป็นประจำเดือน หรือการใส่ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมน เป็นต้น


3. เชื้อราในช่องคลอดจะหายเองได้ไหม?


ในกรณีที่มีอาการไม่รุนแรง สามารถหายเองได้ค่ะ แต่สาว ๆ จะต้องดูแลความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นให้ดี ไม่ปล่อยให้อับชื้น ร่วมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม 

อย่างไรก็ตาม หากกลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ผิวเป็นขุย มีอาการคัน หรือบวมแดงบริเวณอวัยวะเพศ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุดค่ะ


4. เป็นเชื้อราในช่องคลอดควรกินยาอะไร?


หากเป็นเชื้อราในช่องคลอด คุณหมออาจแนะนำให้รับประทานยาต้านเชื้อรา เช่น ฟลูโคนาโซล (Fluconazole) ซึ่งเป็นยาที่ใช้ป้องกันและรักษาอาการติดเชื้อราในกลุ่มเอโซล (Azole Antifungal) หรือให้ใช้ยาทาเฉพาะที่ หรือยาเหน็บที่สามารถต้านเชื้อราได้ อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ จึงไม่ควรซื้อยามารับประทานด้วยตัวเองค่ะ


5. ตกขาวเป็นเชื้อรามีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?


ในกรณีที่มีตกขาวเป็นเชื้อรา แต่ไม่มีอาการเจ็บ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ แต่สาว ๆ จะต้องระมัดระวังเรื่องสุขอนามัย โดยจะต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ค่ะ


HappyBirthClinic คลินิกสูตินรีเวช

สรุปเรื่องน้องสาวมีกลิ่นคาว


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าจะช่วยให้สาว ๆ เข้าใจปัญหาน้องสาวมีกลิ่นปลาเค็ม น้องสาวมีกลิ่นเหม็นกันมากขึ้นแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังสับสนอยู่ แฮปปี้เบิร์ธได้สรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับวิธีจัดการปัญหาน้องสาวมีกลิ่นคาวมาให้แล้วค่ะ

  • น้องสาวอาจจะมีกลิ่นเกิดขึ้นได้ แนะนำให้สังเกตอาการดูก่อน 

  • ถ้าเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวมีสีเหลือง หรือปัสสาวะแสบคัน ควรเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนค่ะ

  • คุณหมอจะตรวจหาสาเหตุของโรค และวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด

  • ไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไปจนรีบไปซื้อยามากินเอง เพราะจะทำให้เกิดอาการดื้อยาได้

  • สบายใจได้เลย ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เราให้บริการโดยคุณหมอและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ

หากสาว ๆ คนไหนรู้สึกว่าน้องสาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีตกขาวผิดปกติ มีอาการคัน หรือแสบขณะปัสสาวะ ก็อย่ารีรอ ควรรีบมาปรึกษาคุณหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้ปัญหาเล็ก ๆ พัฒนาไปเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นได้ค่ะ อีกทั้งถ้าหากสาว ๆ เข้าใจสาเหตุ และรับการรักษาที่ถูกต้อง ก็จะช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ 

โดยสามารถติดต่อนัดหมายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม แฮปปี้เบิร์ธคลินิกยินดีที่จะช่วยแก้ปัญหาทุกเรื่องกวนใจของสาว ๆ ดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกขั้นตอน ไม่ต้องกลัวเขินอายเลยค่ะ



สรุปเรื่องน้องสาวมีกลิ่นคาว



 
 
bottom of page