top of page

คลินิกสูตินรีเวช ฝากครรภ์ ตรวจภายใน อัลตราซาวด์
บ้านก้ามปูอโศก   รามคำแหง 26/1   ลาดกระบัง 54

ค้นหา

ห่วงอนามัย VS ฝังยาคุม ควรเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีไหนดี

  • รูปภาพนักเขียน: พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
    พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
  • 6 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที

ห่วงอนามัย VS ฝังยาคุม เลือกแบบไหนดี

สวัสดีค่ะสาว ๆ ทุกคน วันนี้เรามาพูดคุยกันเรื่องการคุมกำเนิดกันค่ะ สำหรับสาว ๆ ที่กำลังมองหาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้ยาวนาน แฮปปี้เบิร์ธคลินิก คลินิกสูตินรีเวช มีสองตัวเลือกดี ๆ มาแนะนำ นั่นก็คือการใส่ห่วงอนามัย และการฝังยาคุม มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ทุกคนเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองที่สุดได้ค่ะ


ห่วงอนามัย คืออะไร?

ห่วงอนามัยคุมกำเนิด เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดขนาดเล็กที่มีรูปตัวที (T) ซึ่งจะถูกใส่เข้าไปในโพรงมดลูกโดยสูตินรีแพทย์ มีทั้งแบบที่เคลือบสารทองแดงและแบบที่มีฮอร์โมน สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าถึงไข่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน การถอดห่วงคุมกำเนิดสามารถทำได้ง่ายเมื่อต้องการมีบุตรค่ะ


ฝังยาคุม คืออะไร?

ฝังยาคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้หลอดยาขนาดเล็กฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน โดยยาจะค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนออกมาเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ การฝังเข็มยาคุมมีให้เลือกสองแบบคือแบบ 3 ปี (หนึ่งหลอด) และแบบ 5 ปี (สองหลอด) ยาฝังคุมกำเนิดจะออกฤทธิ์โดยยับยั้งการตกไข่และทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น ทำให้อสุจิเคลื่อนที่ผ่านได้ยากค่ะ


เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างห่วงอนามัยกับยาฝังคุมกำเนิด



เปรียบเทียบห่วงอนามัยกับฝังยาคุม

ทั้งห่วงอนามัยและฝังยาคุมเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งวิธีการทำงาน ระยะเ าในการคุมกำเนิด ผลข้างเคียง และค่าใช้จ่าย มาดูการเปรียบเทียบรายละเอียดของทั้งสองวิธีกันค่ะ


ประสิทธิภาพการคุมกำเนิด

ทั้งห่วงคุมกําเนิดและยาฝังคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยห่วงอนามัยมีอัตราความสำเร็จประมาณ 99% ส่วนยาฝังคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.95% ทำให้ทั้งสองวิธีนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดระยะยาวค่ะ


ระยะเวลาคุมกำเนิด

ห่วงคุมกําเนิดสามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปีขึ้นอยู่กับชนิดที่เลือกใช้ ส่วนการฝังยาคุมกำเนิดมีให้เลือกระหว่างแบบ 3 ปี และ 5 ปี ทั้งสองวิธีสามารถถอดออกได้ก่อนหมดอายุการใช้งานหากต้องการมีบุตร โดยความสามารถในการมีบุตรจะกลับคืนมาได้เร็วหลังหยุดใช้ค่ะ


ตำแหน่งที่ใส่

ห่วงอนามัยจะถูกใส่เข้าไปในโพรงมดลูก ส่วนการฝังเข็มยาคุมจะฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขน วิธีการใส่ทั้งสองแบบจำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยใช้เวลาในการทำไม่นาน และสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน


ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลข้างเคียงของห่วงคุมกําเนิดอาจรวมถึงประจำเดือนมามากขึ้น หรือปวดประจำเดือนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนแรก ส่วนการฝังยาคุมอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือขาดประจำเดือน บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ เป็นสิว หรือน้ำหนักขึ้นเล็กน้อย

ผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ห่วงคุมกำเนิดและยาฝังคุมกำเนิดนั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นอาการผิดปกติแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากสาว ๆ รู้สึกวิตกกังวลมากเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น สามารถมาปรึกษาคุณหมอเพื่อวางแผนใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับตนเองได้ค่ะ


ราคาค่าใส่ห่วงคุมกำเนิดและยาฝังคุมกำเนิด

ห่วงคุมกําเนิด ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,200-11,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดที่เลือก ส่วนยาฝังคุมกำเนิดมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6,200-6,500 บาท รวมค่าบริการตรวจภายใน และค่าบริการคุณหมอแล้วค่ะ


ราคาค่าถอดห่วงคุมกำเนิดและถอดยาฝังคุมกำเนิด

สำหรับค่าบริการถอดห่วงคุมกำเนิด ราคาอยู่ที่ 2,000 บาท และค่าบริการถอดเข็มยาคุม ราคา 2,900 บาท ซึ่งราคานี้รวมค่าบริการทางการแพทย์แล้ว เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดระยะเวลาการใช้งาน ทั้งสองวิธีถือว่าคุ้มค่าและประหยัดกว่าการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ ที่ต้องซื้อ หรือฉีดเป็นประจำ


คุมกำเนิดกับแฮปปี้เบิร์ธคลินิก

คุมกำเนิดกับแฮปปี้เบิร์ธคลินิก ดูแลโดยคุณหมอผู้หญิง

การเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมกับร่างกายของคุณ ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เรามีสูตินรีแพทย์ผู้หญิงที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้วิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใส่ห่วงอนามัย หรือฝังยาคุม สาว ๆ สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด สามารถนัดหมายเข้ารับบริการได้เลยที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) หรือเฟสบุ๊กเพจคลินิกสูตินรีเวชแฮปปี้เบิร์ธ - happybirth กับหมอชะเอม (แฮปปี้เบิร์ธคลินิก) รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

 
 
bottom of page