สำหรับคู่รักที่กำลังจะวางแผนตั้งครรภ์แบบธรรมชาติ นอกจากการตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์ที่ควรทำเป็นอย่างแรกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คู่รักหลายคู่นิยมทำกันเป็นวิธีแรก ๆ ก็คือ “การนับวันตกไข่” เพราะเป็นวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกแบบธรรมชาติได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
สำหรับคู่รักคู่ใดที่กำลังวางแผนจะมีลูก แต่ยังไม่รู้ว่าการนับวันตกไข่คืออะไร? แฮปปี้เบิร์ธคลินิกจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการตกไข่ในผู้หญิง วิธีนับวันไข่ตกของตัวเอง และสัญญาณที่บอกว่ากำลังจะตกไข่อย่างละเอียด หาคำตอบได้เลยที่บทความนี้ค่ะ
รู้จักการตกไข่ในผู้หญิง
การตกไข่ เป็นกลไกธรรมชาติในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงที่จะเกิดขึ้นทุกเดือน โดยแต่ละรอบจะใช้ระยะเวลาทุกๆละ 28 - 35 วัน 28 - 35 วัน โดยในแต่ละเดือนจะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้ง และช่วงเวลาที่ไข่พร้อมการผสมจะมีช่วงเวลาอยู่แค่ 12 - 24 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ
ถ้าหากในช่วงเวลานั้น ไข่มีการปฏิสนธิกับอสุจิก็จะไปฝังตัวกับเยื่อบุผนังมดลูก กลายเป็นตัวอ่อน และเกิดการตั้งครรภ์ แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ หรือผสมไม่สำเร็จ ก็จะกลายเป็นประจำเดือนตามมาในอีก 14 วันนั่นเองค่ะ
จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่จะไข่ตก
วงจรการตกไข่จะใช้ระยะเวลารอบละ 28 - 35 วันค่ะ โดยวันที่ไข่ตกจะเป็นวันที่ไข่ใบที่สุกที่สุดออกมาจากรังไข่ไปยังส่วนปล่อยของท่อนำไข่ เพื่อรอทำการปฏิสนธิกับอสุจิ ซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนรอบใหม่จะมาค่ะ
ยกตัวอย่างวิธีนับวันไข่ตกง่าย ๆ เช่น ถ้าสาว ๆ มีรอบเดือนทุก ๆ 28 วันสม่ำเสมอ วันที่ไข่ตกจะอยู่ในช่วงวันที่ 14 ของแต่ละเดือน โดยให้เริ่มนับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน ถ้าหากสาว ๆ อยากตั้งครรภ์ก็ให้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนวันตกไข่ประมาณ 2 วัน หรือก็คือวันที่ 12 - 15 ของแต่ละรอบเดือน เพราะอสุจิจะมีชีวิตรอผสมไข่อยู่ได้ประมาณ 2 วันก่อนการตกไข่ค่ะ
จะรู้ได้อย่างไรว่าไข่ไม่ตก
ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS (Polycystic ovarian disease) หรือภาวะไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) โดยแต่ละคนก็จะมีอาการแสดงที่แตกต่างกันไปค่ะ บางคนอาจพบว่า มีสิวมากกว่าปกติ ผิวมัน หรืออ้วนกว่าปกติ ในขณะที่บางคนมีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง แต่ก็ไม่ได้มีสิวขึ้น หรือหน้ามันค่ะ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ตนเองมีไข่ไม่ตกเรื้อรัง วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุดคือ ถ้าสาว ๆ ประจำเดือนมาไม่ทุกเดือนสม่ำเสมอ แสดงว่ามีความเสี่ยงเป็นภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังได้ แนะนำมาให้คุณหมอประเมิน อัลตราซาวด์ และตรวจเลือดดูฮอร์โมนก็จะวินิจฉัยกลุ่มอาการนี้ได้ค่ะ โดยผู้ที่มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง จะมีไข่อ่อนอยู่ภายในรังไข่เป็นจำนวนมาก และจัดเรียงตัวอยู่ที่ผิวรังไข่คล้ายสร้อยไข่มุกค่ะ
วิธีนับวันไข่ตกของตัวเอง
วิธีนับวันไข่ตกนั้น เป็นวิธีที่เหมาะกับสาว ๆ ที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอเท่านั้น โดยสิ่งแรกที่สาว ๆ จะต้องทำ หากอยากนับวันไข่ตกของตัวเองก็คือ จะต้องรู้ก่อนว่าค่าเฉลี่ยรอบเดือนของตัวเองมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ติดต่อกันประมาณ 8 - 12 เดือน มีวิธีดังนี้
หาความยาวของรอบเดือน เริ่มนับวันแรกที่มีประจำเดือนไปจนถึงวันแรกที่มีประจำเดือนในเดือนถัดไป เช่น หากมีประจำเดือนในวันที่ 1 มกราคม และมีประจำเดือนรอบถัดไปในวันที่ 29 มกราคม ก็แสดงว่า ความยาวของรอบเดือนอยู่ที่ 28 วัน หลังจากนั้นให้จดบันทึกเป็นประจำทุกเดือน ถ้ารอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ 28 วัน ก็แสดงว่ามีรอบเดือนสม่ำเสมอนั่นเอง
วิธีนับวันไข่ตก ไข่จะตกประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือนรอบใหม่ โดยวิธีนับวันไข่ตกง่าย ๆ ให้เอาความยาวของรอบเดือน - 14 วัน ยกตัวอย่างเช่น 28 วัน - 14 วัน ก็จะแสดงว่า สาว ๆ จะมีไข่ตกทุกวันที่ 14 นั่นเองค่ะ
ทั้งนี้หากสาว ๆ โดยเฉพาะใครที่กำลังลังวางแผนจะมีลูกนับวันไข่ตกด้วยตนเองแล้วพบว่า ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็น มาห่าง มาไม่ตรงวัน หรือไม่มาเลย หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง ปวดประจำเดือนมาก ๆ หรือมีประจำเดือนมากกว่าปกติ แนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณและทำการตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องคลอด หรือตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติ และรักษาอย่างตรงจุดก็จะดีที่สุดค่ะ
5 สัญญาณบอกว่ากำลังจะตกไข่
เพื่อให้สาว ๆ คำนวณวันตกไข่ได้ง่ายขึ้น แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้รวบรวม 5 สัญญาณที่บอกว่ากำลังจะตกไข่มาให้แล้ว จะมีสัญญาณอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
ตกขาวเยอะขึ้น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะส่งผลต่อมูกบริเวณปากมดลูก ทำให้เกิดตกขาวมากขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่นำพาอสุจิปฏิสนธิกับไข่ได้สะดวกมากขึ้นค่ะ
มีอารมณ์ทางเพศที่มากขึ้น ในช่วงที่ตกไข่จะมีเลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงบริเวณช่องคลอด และสร้างสารหล่อลื่นที่บริเวณช่องคลอดเพื่อทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น และจะมีอารมณ์ทางเพศมากค่ะ
มีอาการเจ็บคัดเต้านม เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ใช่วันไข่ตกเสมอไป เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย
ปวดท้องน้อยข้างเดียว เกิดจากการที่รังไข่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีความเหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนของทารก แต่ถ้าหากไม่มีการปฏิสนธิ ผนังภายในรังไข่ก็จะหลุดออกมากลายเป็นประจำเดือน ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการปวดท้องน้อยได้ค่ะ
เลือดสูบฉีด อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น เกิดจากที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีการตกไข่
ตรวจการไข่ตกด้วยวิธีไหนได้บ้าง
สาว ๆ สามารถตรวจการตกไข่ด้วยชุดทดสอบการตกไข่ (LH Ovulation Test Strip) เป็นชุดตรวจที่มีลักษณะคล้ายกับที่ตรวจตั้งครรภ์ด้วยตนเอง มีให้เลือกใช้ทั้งแบบจุ่ม (Strip) แบบตลับใช้หยด (Cassette) และแบบปัสสาวะผ่าน (Midstream) โดยจะมีขั้นตอนการตรวจดังนี้
ให้เก็บปัสสาวะในช่วง 14.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงที่ฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ (Luteinizing hormone : LH) ที่ถูกสร้างขึ้นในตอนเช้า จะมีระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงช่วง 13.00 - 20.00 น. การตรวจในช่วงเวลานี้จะมีความแม่นยำมากที่สุด
หลังจากที่ตรวจเสร็จแล้ว ถ้าผลออกมาว่า มีระดับฮอร์โมน LH สูงสุด แสดงว่ากำลังจะมีการตกไข่ภายในเวลา 12-49 ชั่วโมง แนะนำให้มีเพศสัมพันธ์ภายใน 48 ชั่วโมงก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์มากยิ่งขึ้น
หลังไข่ตกอยู่ได้กี่วัน มีเพศสัมพันธ์วันไข่ตก หรือไข่สุกจะท้องไหม
การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ไข่ตก หรือไข่สุก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ โดยไข่ที่ตกลงมาจากรังไข่จะอยู่ได้แค่ 1 วันเท่านั้น ถ้าไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ไข่ก็จะฝ่อสลายไป ส่วนผนังมดลูกที่รอให้ไข่ไปฝังตัวหลังจากปฏิสนธิก็จะสลายตัวและกลายเป็นประจำเดือนแทนค่ะ
มีอะไรหลังวันตกไข่ 1 วัน หรือ 2 วัน หรือก่อนวันไข่ตกจะท้องไหม
ไข่ตกจะมีระยะเวลาประมาณ 12 - 24 ชั่วโมง แต่อสุจิจะสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายได้นาน 3 - 5 วัน หากสาว ๆ มีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่ตก ไม่เกิน 5 วัน หรือมีหลังวันไข่ตกภายใน 1 วัน ก็มีโอกาสสูงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ แต่ถ้าเลยไป 2 วันแล้ว โอกาสตั้งครรภ์จะลดลง เนื่องจากไข่ที่ตกลงมาจากรังไข่อาจฝ่อสลายไปแล้วค่ะ สาว ๆ คนไหนที่มีข้อสงสัยว่า การมีเพศสัมพันธ์กี่วันถึงท้อง ก็คือช่วงเวลาที่กล่าวไปข้างต้นนี่แหละค่ะ
ปล่อยนอกวันไข่ตกจะท้องไหม
การมีเพศสัมพันธ์แบบปล่อยนอก หรือหลั่งนอก โดยไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในวันที่ไข่ตก มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ เนื่องจากในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์อาจมีอสุจิที่เล็ดลอดออกมาก่อนหลั่งจริงและหลุดเข้าไปในช่องคลอดได้ค่ะ
ไข่จะตกทุกเดือนไหม
วงจรไข่ตกจะใช้ระยะเวลารอบละ 28 - 35 วัน และถ้าไม่มีการปฏิสนธิก็จะฝ่อสลายไป ส่วนผนังมดลูกก็จะสลายตัวและไหลออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ดังนั้นคำตอบของคำถามไข่จะตกทุกเดือนไหม คือ ไข่ควรตกทุกเดือนค่ะ และถ้าสาว ๆ ไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ควรที่จะมีประจำเดือนทุกเดือนค่ะ ถ้าเดือนไหนประจำเดือนมาผิดปกติ ประจำเดือนขาด มามาก หรือมาน้อยกว่าเดิม แนะนำให้มาพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและวางแผนรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ
กินอะไรให้ไข่ตกเยอะ ๆ
หากสาว ๆ กำลังมองหาอาหารที่ช่วยให้ไข่ตกเยอะ ๆ แนะนำให้เลือกกินอาหารที่ส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกาย เช่น ผักใบเขียวต่าง ๆ ผักตระกูลกะหล่ำ กระเทียม ถั่วต่าง ๆ เมล็ดงา หรือปลาทะเล ร่วมกับการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เมื่อร่างกายแข็งแรงดีแล้ว มีระดับฮอร์โมนที่สมดุล ก็จะสามารถผลิตไข่ได้ตามปกติ มีผนังมดลูกในระดับที่พอดี ไม่บาง หรือหนาเกินไป จึงช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้มากนั่นเอง
ก่อนจะท้องจะมีอาการยังไง จะรู้ได้ไงว่าปฏิสนธิแล้ว
ส่วนใหญ่สาว ๆ จะมีอาการคัดเต้านม หรือหัวนม รู้สึกเสียวแปลบที่เต้านม เต้านมขยายใหญ่ขึ้น หรือปานนมมีสีคล้ำขึ้น ตั้งแต่ 2 - 3 วันหลังปฏิสนธิค่ะ แต่อาการจะคล้ายคลึงกับช่วงก่อนมีประจำเดือน จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิด และมองข้ามไป
นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ด้วย เช่น ขาดประจำเดือน แพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อยขึ้น ท้องอืด หรืออ่อนเพลีย แต่อาการเหล่านี้จะพบได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไปค่ะ
หากสาว ๆ อยากทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ไหม วิธีตรวจวินิจฉัยที่เร็วที่สุด และมีความแม่นยำ 100% ก็คือการตรวจตั้งครรภ์ด้วยการเจาะเลือดที่คลินิกสูตินรีเวช โดยสามารถตรวจพบหลัง 7 - 10 วันหลังปฏิสนธิค่ะ
กินยาคุมนับวันไข่ตกได้ไหม
ไม่สามารถนับได้ เพราะยาคุมกำเนิดมีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ค่ะ
นับวันไข่ตกยังไงไม่ให้ท้อง
คุณหมอไม่แนะนำให้สาว ๆ คุมกำเนิดด้วยการนับวันไข่ตกค่ะ เนื่องจากวันไข่ตกของผู้หญิงมีโอกาสคลาดเคลื่อนได้สูงมากจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านสุขภาพ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียดจากการทำงาน หรือการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ถ้าต้องการคุมกำเนิดให้มีประสิทธิภาพสูงจริง ๆ แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด หรือใส่ห่วงคุมกำเนิดจะดีกว่าค่ะ
สรุปค่ะ
จะเห็นได้ว่า วิธีนับวันไข่ตกเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้มีลูกได้ง่ายมากขึ้น แต่จะเหมาะกับสาว ๆ ที่รอบเดือนมาสม่ำเสมอเท่านั้น ถ้าหากลองตั้งครรภ์ธรรมชาติด้วยวิธีนับวันไข่ตกแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์จะดีที่สุดค่ะ เพราะมีหลายสาเหตุมากที่ทำให้สาว ๆ มีภาวะมีบุตรยากได้ โดยที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกเราให้บริการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร พร้อมดูแลตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ ตรวจตั้งครรภ์ตรวจ NIPT หาความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ ฝากครรภ์ครั้งแรกตรวจอัลตร้าซาวด์ 2 มิติตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ไปจนถึงตรวจหลังคลอดอย่างครบครัน ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยคุณหมอผู้หญิงที่เข้าใจคุณแม่ทุกวัย รับรองได้เลยว่าสาว ๆ จะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ
Comments