top of page
  • รูปภาพนักเขียนพญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)

ไขข้อสงสัย ฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไร

อัปเดตเมื่อ 28 มี.ค.


ไขข้อสงสัย ฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไร


เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้ว สิ่งแรกที่ว่าคุณแม่ทุกคนควรทำก็คือการฝากครรภ์ค่ะ เพื่อเป็นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยในครรภ์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องไหม คุณแม่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงพอสำหรับการตั้งครรภ์หรือเปล่า ถ้าหากตรวจพบอาการผิดปกติใด ๆ คุณหมอจะได้วางแผนการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ

แล้วการฝากครรภ์ ควรเลือกฝากครรภ์ที่คลินิกสูตินรีเวช หรือโรงพยาบาลดี การฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันมากน้อยแค่ไหน แฮปปี้เบิร์ธคลินิก ได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว รับรองว่าอ่านจบจะช่วยให้คุณแม่เลือกที่ฝากครรภ์ที่เหมาะกับตัวเองได้แน่นอนค่ะ


ทำไมการฝากครรภ์ถึงเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญ

เหตุผลที่คุณแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการฝากครรภ์ มีดังนี้

  • เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายของคุณแม่ให้แข็งแรงตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ โดยคุณหมอจะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองต่าง ๆ ทั้งอาหารการกิน การออกกำลังกาย รวมทั้งวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสมค่ะ

  • เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายของลูกน้อยในครรภ์ให้แข็งแรง เติบโตตามพัฒนาการได้อย่างเต็มที่ และมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมตามเกณฑ์

  • เพื่อเป็นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งครรภ์ในครั้งนี้จะสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ หรือมีความจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์

  • เพื่อป้องกัน และลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ 

  • เพื่อช่วยป้องกันอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยในครรภ์ จนนำไปสู่การแท้งบุตร หรือมีการติดเชื้อในครรภ์ค่ะ


ฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไร

สำหรับคุณแม่คนไหนที่สงสัยว่าฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไรนั้น จริง ๆ แล้วถ้าพูดถึงในแง่การดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ จะไม่ค่อยต่างกันมากค่ะ โดยเฉพาะแนวทางดูแลรักษาของแพทย์ เช่น การซักประวัติสุขภาพของคุณแม่ การติดตามความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายคุณแม่และทารก ตลอดจนหาแนวทางป้องกันความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์  


เพียงแต่การฝากครรภ์ที่คลินิกจะมีความสะดวกสบายด้วยการบริการที่รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน สามารถนัดหมาย หรือเลื่อนนัดได้อย่างสะดวก แต่ทั้งนี้คุณแม่มือใหม่ก็ควรเลือกฝากครรภ์กับสถานที่ที่เดินทางได้สะดวก ใกล้บ้าน และอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละครอบครัวจะดีที่สุดค่ะ


แล้วฝากครรภ์คลินิกคลอดที่ไหน

แม้ว่าสถานที่ฝากครรภ์จะเป็นที่คลินิก ก็จำเป็นต้องไปคลอดที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนก็ตาม ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว สามารถปรึกษาคุณหมอเรื่องการคลอดที่ รพ ต่างๆ ได้ รวมถึงวิธีการคลอด (ผ่าคลอด คลอดธรรมชาติ)


ฝากครรภ์คลินิก เมื่อไหร่ต้องย้ายไปคลอดที่โรงพยาบาล

ช่วงระยะเวลาที่ต้องเตรียมตัวไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลก็คือ ช่วงอายุครรภ์ครบประมาณ 35-36 สัปดาห์ หรือ 9 เดือนค่ะ  โดยคุณหมอก็จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง รวมถึงวิธีสังเกตสัญญาณเบื้องต้นของการคลอดบุตร เพื่อที่จะได้ไปโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีค่ะ


ย้าย​​โรงพยาบาลฝากครรภ์  หรือย้ายคลินิกฝากครรภ์ต้องทำยังไง

การย้ายโรงพยาบาลฝากครรภ์ หรือย้ายคลินิกฝากครรภ์สามารถทำได้ หากมีเหตุจำเป็น แต่ทั้งนี้ในการย้ายที่ฝากครรภ์ก็อาจขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของอายุครรภ์ร่วมด้วย หากมีอายุครรภ์เยอะแล้ว หรือมีภาวะเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด ก็อาจไม่เหมาะกับการย้ายที่ฝากครรภ์ค่ะ

และเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์ ในการย้ายที่ฝากครรภ์ แฮปปี้เบิร์ธคลินิกมีข้อแนะนำในการเลือกสถานที่ฝากครรภ์ดังนี้ค่ะ


  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่เชี่ยวชาญ เช่น คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวช หรือโรงพยาบาล

  • ควรเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่สะดวกต่อการเดินทาง ทั้งในกรณีที่ไปฝากครรภ์ตามนัดหมาย และในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน


เลือกสถานที่ฝากครรภ์อย่างไรให้ปลอดภัยต่อตัวคุณแม่

วิธีเลือกสถานที่ฝากครรภ์ให้ปลอดภัยต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์มากที่สุด สามารถทำได้ดังนี้



เลือกสถานที่ฝากครรภ์อย่างไรให้ปลอดภัยต่อตัวคุณแม่


1. มาตรฐานของสถานพยาบาล

เพื่อความปลอดภัยในการฝากครรภ์ วิธีการเลือกสถานที่ฝากครรภ์ที่ควรคำนึงถึงข้อแรกเลยก็คือมาตรฐานของสถานพยาบาล ไม่ว่าจะ คลินิกสูตินรีเวช หรือโรงพยาบาล ก็ต้องได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย มีเลขใบอนุญาตจดทะเบียนสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนมีอุปกรณ์เครื่องมือในการดูแลครรภ์อย่างครบครัน 


2. ความเชี่ยวชาญของแพทย์ประจำสถานพยาบาล

ในการฝากครรภ์นั้นจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ด้านสูตินรีเวชประจำสถานพยาบาล ที่จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการฝากครรภ์ การคลอดบุตร ตลอดจนการดูแลสุขภาพของคุณแม่ทั้งช่วงระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร รวมถึงการประเมินความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน หรือการรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์เป็นอย่างดี


3. การเดินทางที่สะดวกต่อตัวคุณแม่

ตลอดระยะเวลาฝากครรภ์ แพทย์อาจมีการนัดหมายเพื่อตรวจครรภ์เป็นประจำในทุก ๆ เดือน และยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หรือช่วงใกล้คลอด แพทย์อาจมีการนัดหมายเพื่อตรวจครรภ์ถี่กว่าเดิม อาจเป็นอาทิตย์ละครั้ง หรือทุก ๆ 2 อาทิตย์ ฉะนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเลือกสถานพยาบาลสำหรับฝากครรภ์ที่เดินทางสะดวก หากมีเหตุฉุกเฉินก็จะได้ไปทันเวลา


4. ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์

สำหรับค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ของแต่ละสถานพยาบาลก็จะถูกแพงแตกต่างกันออกไปอยู่ในช่วง 3,000-5,000 บาท โดยที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการฝากครรภ์ครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท ซึ่งรวมค่าฝากครรภ์ ค่ายา ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าตรวจอัลตราซาวด์แล้ว  แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษอื่น ๆ ในกรณีที่คุณแม่มีภาวะเสี่ยง หรือมีโรคประจำตัว และจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการฝากครรภ์ในครั้งถัด ๆ ไปอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาทค่ะ



happybirth clinic


สรุปค่ะ

เรียกได้ว่าการฝากครรภ์นั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แน่ใจว่าสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงดีตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ ซึ่งครอบครัวไหนที่กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเลือกฝากครรภ์ที่ไหนดี หรือหากยังมีข้อสงสัยว่าการฝากครรภ์คลินิกกับโรงพยาบาลต่างกันอย่างไรนั้นก็สามารถนำข้อมูลเบื้องต้นไปประกอบการตัดสินใจกันได้เลย ส่วนว่าที่คุณแม่คนไหนที่อยากฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก สามารถนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์  081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม คลินิกของเราดูแลโดยคุณหมอสูตินรีแพทย์ผู้หญิงที่เข้าใจคุณแม่ทุกวัย ไม่ต้องกลัวเขินอายเลยค่ะ



ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์

bottom of page