top of page
รูปภาพนักเขียนพญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)

คุมกำเนิดหลังคลอด สำหรับคุณแม่ให้นมลูก

อัปเดตเมื่อ 28 มี.ค.

โดยทั่วไปแล้ว หลังจากที่คุณแม่คลอดบุตร คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยการให้นมบุตรอย่างเดียว (Exclusive Breastfeeding) ในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยคุมกำเนิดไปในตัวได้ถึง 90 - 95% อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่ยังมีความกังวลเรื่องคุมกำเนิดอยู่ แฮปปี้เบิร์ธคลินิก มี 5 วิธีคุมกำเนิดหลังคลอดสำหรับคุณแม่ให้นมลูกมาแนะนำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากยิ่งขึ้น จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

วิธีคุมกำเนิดหลังคลอด

รวม 5 วิธีการคุมกำเนิดหลังคลอดที่ไม่มีผลต่อปริมาณน้ำนม

ในปัจจุบันวิธีคุมกำเนิดหลังคลอดที่ไม่มีผลต่อปริมาณน้ำนม หลังจากที่คุมกำเนิดแล้ว ยังคงสามารถให้นมลูกได้ตามปกติ จะมีอยู่ 5 วิธีหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ


1. ถุงยางอนามัย (Condom)

เป็นวิธีที่คุณกำเนิดหลังคลอดสำหรับคุณแม่ที่ไม่ต้องการใช้ฮอร์โมน มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย และต้องการคุมกำเนิดในระยะเวลาสั้น ๆ ค่ะ แต่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้จะขึ้นอยู่กับการใช้งานถุงยางอนามัยด้วย ถ้าหากใช้งานอย่างถูกต้องก็จะมีประสิทธิภาพสูงถึง 98% เลยค่ะ


2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestin-only pill)

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เป็นชนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดที่สามารถรับประทานได้ในช่วงให้นมบุตรโดยที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อปริมาณน้ำนม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ และจำเป็นที่จะต้องรับประทานอย่างมีวินัย ไม่ควรลืมกิน หรือเปลี่ยนช่วงเวลากินบ่อย ๆ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ค่ะ


3. ยาฉีดคุมกำเนิด

การฉีดยาคุมหลังคลอด จะมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมกินยา โดยคุณแม่จะต้องฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือนเท่านั้น เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำนม สำหรับคุณแม่ท่านใดที่สนใจการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ จะสามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่ 6 สัปดาห์หลังคลอดเป็นต้นไปค่ะ


4. ห่วงคุมกำเนิด (IUD)

สำหรับคุณแม่คนไหนที่อยากคุมกำเนิดในระยะยาวหลาย ๆ ปี สามารถเลือกคุมกำเนิดด้วยการใส่ห่วงคุมกำเนิดได้ค่ะ ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่มีฮอร์โมน สามารถคุมกำเนิดได้ 3 - 5 ปี และชนิดที่ไม่มีฮอร์โมน สามารถคุมกำเนิดได้ 3 - 10 ปี


อย่างไรก็ตาม การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้จะต้องรอให้มดลูกเข้าอู่ให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะสามารถใส่ห่วงคุมกำเนิดได้โดยจะใช้ระยะเวลาหลังจากที่คลอดบุตรไปแล้วอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนั้นคุณแม่จำเป็นต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นไปก่อน


5. ยาฝังคุมกำเนิด (Implamt)

การฝังยาคุมกำเนิดจะมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ชนิด 1 หลอด (Implanon NXT - Etonogestrel) สามารถคุมกำเนิดได้ 3 ปี และชนิด 2 หลอด (Jadelle - Lvonorgestrel) สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี โดยคุณหมอจะทำการฝังยาคุมที่บริเวณท้องแขนด้านในเหนือข้อศอกเล็กน้อยค่ะ จัดเป็นอีกหนึ่งวิธกำเนิดหลังคลอดที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้วิธีอื่นเลยค่ะ

ปรึกษาคุมกำเนิดที่ HappyBirthClinic

สรุปค่ะ

จะเห็นได้ว่าการคุมกำเนิดหลังคลอดมีให้เลือกหลายวิธี สำหรับคุณแม่ท่านใดที่ต้องการคุมกำเนิดหลังคลอดแล้วไม่มั่นใจว่าควรเลือกวิธีไหนดีถึงจะเหมาะกับตนเองมากที่สุด สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้เลยค่ะ คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การตรวจสุขภาพของคุณแม่หลังคลอด ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม รวมถึงการคุมกำเนิดหลังคลอดด้วยวิธีการต่าง ๆ ด้วย เราดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงที่เข้าใจคุณแม่ทุกวัย

bottom of page