เมื่อเริ่มวางแผนการมีบุตร เชื่อว่านอกจากความสุขที่จะได้มีสมาชิกใหม่เพิ่ม คุณพ่อมือใหม่หลายคนอาจมีความกังวลตามมา เพราะการเป็นคุณพ่อไม่ใช่เรื่องง่าย มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอีกมากมาย วันนี้แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้รวบรวม 7 สิ่งที่ควรรู้สำหรับว่าที่คุณพ่อมือใหม่ เพื่อให้ว่าที่คุณพ่อได้เตรียมตัวดูแลคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ให้เป็นไปอย่างราบรื่น
7 สิ่งควรรู้ สำหรับว่าที่คุณพ่อมือใหม่
1. ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ โรคทางพันธุกรรมป้องกันได้
การตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามสำหรับคู่รักทุกคู่ เพราะช่วยคัดกรองและประเมินความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกได้ และหากพบปัญหามีลูกยากจะได้วางแผนรับมือได้ทันท่วงที การมีเจ้าตัวเล็กเป็นไปอย่างราบรื่น คุณแม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย และทารกในครรภ์เจริญเติบโตได้ตามปกติ และร่างกายแข็งแรง
2. พาคุณแม่ฝากครรภ์คลินิก
หลังจากการฝากครรภ์ คุณหมอจะมีการนัดตรวจครรภ์หลายครั้ง ในช่วงแรกมักจะนัดตรวจทุก ๆ เดือน และนัดถี่มากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้คลอด ดังนั้นการพาคุณแม่ไปฝากครรภ์ที่คลินิกใกล้บ้าน จะทำให้สะดวกในการเดินทาง เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น จะได้พาคุณแม่ไปพบหมอได้สะดวกและรวดเร็ว เพราะหากต้องเดินทางไกลมาก คุณแม่ก็เหนื่อยมาก ความเสี่ยงต่อลูกน้อยก็เพิ่มมากขึ้น
3. ตรวจโรคทางพันธุกรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
การตรวจหาความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรมต่างๆ หรือการตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นการเก็บตัวอย่างเลือดคุณแม่ส่งห้องปฏิการ เพื่อตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมที่ส่งผลให้เกิดโรคทางพันธุกรรม เช่น ทาลัสซีเมีย ดาวน์ซินโดรม เป็นวิธีที่มีความแม่นยำ และปลอดภัย คุณพ่อมือใหม่ควรพาคุณแม่ไปตรวจเพื่อที่จะได้วางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม
4. ศึกษาวิธีดูแลเด็กทารกล่วงหน้า
เมื่อภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ คุณพ่อมือใหม่ต้องเริ่มศึกษาเรียนรู้วิธีดูแลเด็กทารกล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกแรกเกิดจะมีความบอบบางเป็นพิเศษ กระดูก ข้อต่อต่างๆ ยังไม่แข็งแรง การเลี้ยงลูกช่วงนี้จึงต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยทั้งคุณแม่และคุณพ่อมือใหม่ควรศึกษาวิธีการดูแลลูก ไม่ว่าจะเป็นการอุ้มลูก การอาบน้ำ การจับลูกเรอ การเปลี่ยนผ้าอ้อม เพื่อให้สามารถปฏิบัติจริงได้ถูกต้อง โดยสามารถศึกษาได้จากสมุดฝากครรภ์สีชมพู สมุดบันทึกที่คุณแม่จะได้รับเมื่อมาฝากครรภ์ เป็นสมุดที่เต็มไปด้วยความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ดูแลสุขภาพลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม
5. คลอดแล้ว อย่าลืมพาคุณแม่ มาตรวจสุขภาพหลังคลอด
การตรวจหลังคลอด เบื้องต้นคุณหมอจะมีรายการตรวจดังนี้ค่ะ
ตรวจดูแผลฝีเย็บ
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ตรวจภายในว่ามดลูกเข้าอู่ปกติหรือยัง คลำปีกมดลูก
แนะนำข้อมูลสุขศึกษาเรื่องการคุมกำเนิด เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การฉีดยาคุมกำเนิด การใช้ห่วงคุมกำเนิด การกินยาคุมกำเนิด การฝังยาคุมกำเนิด การให้นมบุตร
ฉีดวัคซีนบาดทะยักเข็มสุดท้าย (ในรายที่ยังไม่ได้เข็มที่ 3)
วันที่มาตรวจคุณแม่อย่าลืมให้นำสมุดฝากครรภ์มาด้วยนะคะ 😊😊
6. เตรียมความพร้อมด้านอารมณ์และจิตใจ
หลังจากคลอดลูก คุณแม่คุณพ่อมือใหม่ย่อมเหนื่อยล้าจากการดูแลลูกจนอาจทำให้เกิดความเครียดสะสม หงุดหงิดง่าย หรืออารมณ์แปรปรวนได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านอารมณ์และจิตใจของพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องฝึกควบคุมอารมณ์ให้เป็น ไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ มีความอดทนและอ่อนโยน เพราะช่วง 3 ปีแรกเป็นช่วงที่ลูกน้อยรับรู้ เรียนรู้ และเลียนแบบ ดังนั้นอารมณ์ที่พ่อแม่แสดงออกมีผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์และพฤติกรรมของลูกน้อย ลูกจะไม่กลายเป็นเด็กเจ้าอารมณ์และก้าวร้าว
7. จัดสรรเวลาช่วยคุณแม่ดูแลลูกน้อย
ในช่วงแรกคลอดจนถึงขวบปีแรก แน่นอนว่าคุณแม่จะมีความใกล้ชิดลูกเป็นพิเศษ ทั้งต้องให้นมลูก การกล่อมลูก ซึ่งอาจนำไปสู่การอดหลับอดนอนได้ ดังนั้นคุณพ่อมือใหม่จึงควรวางแผนบริหารจัดการเวลาระหว่างการทำงานกับเวลาดูแลลูกน้อยให้ดี ให้มีเวลาว่างพอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ได้ ยิ่งทั้งพ่อและแม่มีเวลาให้ลูกน้อยมากเท่าใด จะทำให้ลูกเกิดความผูกพันและมีความฉลาดทางอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น
สรุปค่ะ ☺️
และนี่คือสิ่งควรรู้สำหรับคุณพ่อมือใหม่ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้นำมาฝากกัน หากคุณพ่อมือใหม่มีการเตรียมตัวตาม 7 ข้อข้างต้น เชื่อว่าจะทำให้ช่วง 9 เดือนระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ราบรื่นดังที่ใจหวัง ตลอดจนการเลี้ยงลูกหลังคลอดเป็นไปอย่างถูกวิธี สำหรับคู่รักคู่ไหนที่กำลังวางแผนมีบุตร แฮปปี้เบิร์ธคลินิกขอแนะนำบริการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสูตินรีแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับว่าที่คุณพ่อคุณแม่ ช่วยให้การตั้งครรภ์เป็นเรื่องง่าย ไร้กังวล คู่รักคู่ไหนที่สนใจ สามารถติดต่อนัดหมาย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) ได้เลย