top of page

คลินิกสูตินรีเวช ฝากครรภ์ ตรวจภายใน อัลตราซาวด์
บ้านก้ามปูอโศก   รามคำแหง 26/1   ลาดกระบัง 54

ค้นหา

ตรวจเจอเชื้อ HPV? รักษา HPV อย่างมั่นใจ ด้วยการดูแลจากสูตินรีแพทย์ happybirth clinic

  • รูปภาพนักเขียน: พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
    พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)
  • 36false55 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 2ชั่วโมง

บทความนี้ได้รับการตรวจสอบโดย พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง คุณหมอสูตินรีเวชประจำ happybirth clinic


เมื่อได้รับผลตรวจสุขภาพระบุว่า "พบเชื้อ HPV" เป็นเรื่องปกติที่สาวๆ จะรู้สึกกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ว่า "จะเป็นมะเร็งไหม?" หรือ "ต้องทำอย่างไรต่อ?" บทความนี้มีคำตอบค่ะ


ตรวจเจอเชื้อ HPV? รู้จักเจลสเปรย์ Colpofix ตัวช่วยฟื้นฟูการติด HPV
Colpofix ตัวช่วยฟื้นฟูปากมดลูกจากการติดเชื้อ HPV

คุณหมออยากให้คลายความกังวลก่อนค่ะว่า "การตรวจเจอเชื้อ HPV ไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งเสมอไป" และในปัจจุบันทางการแพทย์มีแนวทางการดูแลผู้ที่ตรวจพบเชื้อ HPV อย่างเป็นระบบ ชัดเจน และหวังผลได้


ที่ happybirth clinic เราให้ความสำคัญกับการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งไม่ได้เริ่มที่การรีบหาซื้อยามาใช้เอง แต่คือการตรวจประเมินและวางแผนการดูแลที่เหมาะสมกับสภาวะร่างกายของแต่ละคน รวมถึงการเลือกใช้นวัตกรรมตัวช่วยฟื้นฟูอย่าง Colpofix ในเคสที่เหมาะสมค่ะ


หัวข้อในบทความนี้:


ตรวจเจอเชื้อ HPV แล้ว...ควรทําอย่างไร?


การดูแลรักษาเมื่อติดเชื้อ HPV ไม่ใช่เพียงการมุ่งเน้นกำจัดไวรัส แต่คือการดูแลและติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเซลล์ปากมดลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์เหล่านั้นพัฒนาไปเป็นความผิดปกติที่รุนแรงค่ะ


เมื่อทราบผลตรวจ HPV สาวๆ มักค้นหาข้อมูลว่า "HPV รักษาที่ไหน" แต่ขั้นตอนแรกที่ถูกต้องทางการแพทย์คือ การประเมินความเสี่ยง ค่ะ เราจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลประกอบกัน ดังนี้:

  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear / Pap Test): เพื่อดูความผิดปกติของเซลล์เบื้องต้น

  • ตรวจสายพันธุ์ของเชื้อ HPV (HPV Genotyping): หากเป็นสายพันธุ์ 16 หรือ 18 ที่มีความเสี่ยงสูง สูตินรีแพทย์จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ


ที่ happybirth clinic เรามีบริการตรวจประเมินเหล่านี้ครบจบในที่เดียว สาวๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปตรวจหลายที่ หรือกังวลว่าจะไม่เข้าใจผลตรวจ เพราะเรามีทีมสูตินรีแพทย์พร้อมดูแลและอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียดค่ะ


ตรวจเจอ HPV ต้องทำยังไงต่อ? (5 Steps by happybirth clinic)


เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน คุณหมอสรุปขั้นตอนการดูแลตัวเองให้ดังนี้ค่ะ:

  1. ตั้งสติและไม่ต้องตกใจ: เชื้อ HPV พบได้บ่อยและร่างกายจัดการเองได้ส่วนหนึ่ง

  2. นัดหมายเข้ามาปรึกษา: นำผลตรวจที่มี (หรือมาตรวจใหม่ที่เรา) เข้ามาปรึกษากับสูตินรีแพทย์

  3. วางแผนการรักษา:

    • ถ้ารอยโรคระดับต่ำ: อาจใช้การติดตามผลอย่างใกล้ชิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์เสริม (Colpofix) ร่วมกับการปรับพฤติกรรม

    • ถ้ารอยโรคระดับสูง: รักษาด้วยหัตถการทางการแพทย์

  4. เริ่มดูแลตัวเอง: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  5. ติดตามผลต่อเนื่อง: มาตรวจซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ จนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัย




แนวทางการดูแลรักษาการติดเชื้อ HPV


สิ่งที่อยากให้ทราบคือ "ร่างกายของมนุษย์มีกลไกธรรมชาติในการกำจัดเชื้อ HPV" หากภูมิคุ้มกันแข็งแรง เชื้อสามารถหายไปเองได้ภายใน 1-2 ปีค่ะ สำหรับการดูแลทางการแพทย์ เรามีแนวทางที่ช่วยรักษา HPV โดยสูตินรีแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีดูแลตามความเหมาะสมของรอยโรค:


กรณีรอยโรคระดับต่ำ หรือติดเชื้อ HPV แต่เซลล์ปกติ

เรามักใช้วิธี "เฝ้าระวังและติดตามอาการ" โดยนัดตรวจซ้ำเป็นระยะ (Follow-up) ร่วมกับการแนะนำให้ปรับพฤติกรรมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงขึ้น หรือพิจารณาใช้ตัวช่วยเสริมการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาย


กรณีรอยโรคระดับสูง

จำเป็นต้องทำการรักษาเพื่อกำจัดรอยโรค เช่น การตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า (LEEP) หรือการจี้เย็น/ร้อน เพื่อตัดวงจรการเกิดมะเร็ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา


ตรวจเจอเชื้อ HPV แล้วทำยังไง? รักษา HPV ด้วยเจลสเปรย์ Colpofix
Colpofix ตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแล HPV (image source : colpofix.com)

รู้จักกับ "Colpofix" ตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแล HPV


ในเคสที่เป็นรอยโรคระดับต่ำ หรืออยู่ในช่วงเฝ้าระวัง (Wait and see) คุณหมออาจแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง Colpofix (คอลโปฟิกซ์) เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพปากมดลูกค่ะ


Colpofix คืออะไร?

Colpofix คือ เจลสเปรย์สำหรับพ่นทางช่องคลอด ที่เป็นเครื่องมือแพทย์ (Medical Device) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ เมื่อฉีดพ่นจะเป็นของเหลวเพื่อให้กระจายตัวทั่วถึง แต่จะเปลี่ยนสภาพเป็นเจลเกาะติดแน่นทันทีเมื่อสัมผัสผนังช่องคลอด ไม่ไหลย้อนเลอะเทอะ โดยมีกลไกการทำงานหลักๆ ดังนี้ค่ะ:

  • สร้างเกราะป้องกัน: สร้างฟิล์มเคลือบปกป้องเยื่อบุปากมดลูกจากเชื้อโรคภายนอก

  • ฟื้นฟูและซ่อมแซม: กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ (Re-epithelialization) ช่วยให้รอยโรคสมานตัวได้ดีขึ้น

  • ปรับสมดุล: ปรับสภาพความเป็นกรดในช่องคลอด (pH) ให้เหมาะสม ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น


แต่สิ่งที่อยากให้รู้ชัดๆ คือ…

  • Colpofix ไม่ใช่ยาฆ่าไวรัส HPV หลายคนคิดว่าพ่นสเปรย์เข้าไปแล้วจะไปฆ่าไวรัสให้ตายทันทีเหมือนยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จริงๆ แล้วกลไกของคือการเข้าไป "ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม" ในช่องคลอดให้สมดุลและสร้างเกราะป้องกัน เพื่อเอื้อให้ "ภูมิคุ้มกันร่างกายของเราเอง" แข็งแรงพอที่จะไปกำจัดเชื้อไวรัสออกไปได้ตามธรรมชาติค่ะ

  • ใช้ได้ผลดีในเคสที่รอยโรคยังไม่รุนแรง Colpofix ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลผู้ที่มีความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกใน ระยะเริ่มต้น (Low-grade lesions / ASCUS / LSIL) หรือใช้เพื่อฟื้นฟูหลังการผ่าตัด หากรอยโรคพัฒนาไปสู่ ระดับรุนแรง (High-grade) การพ่นยาเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงพอและอาจ "เอาไม่อยู่" ค่ะ ควรรับคำปรึกษาและแนวทางการรักษาจากสูตินรีแพทย์ค่ะ

  • ไม่ควรซื้อมาใช้เอง เพราะอาจไม่เหมาะกับระดับรอยโรคของบางคน หากภายในช่องคลอดของคุณมีรอยโรคระดับสูง (ที่จำเป็นต้องจี้หรือตัด) แต่คุณเข้าใจผิดและซื้อยามาพ่นเอง จะทำให้คุณ "เสียโอกาสทองในการรักษา" และปล่อยให้รอยโรคลุกลามไปโดยไม่รู้ตัว


ดังนั้น การใช้ Colpofix ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ค่ะ เพื่อให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด


ราคาและโปรแกรมการรักษาด้วย Colpofix ที่ happybirth clinic

สำหรับสาวๆ ที่ได้รับการประเมินจากสูตินรีแพทย์แล้วว่าเหมาะสมกับการใช้วิธีนี้ เรามีโปรแกรมดูแลที่ครอบคลุม:

แพ็กเกจดูแลด้วย Colpofix เมื่อพบเชื้อ HPV ระยะเริ่มต้น

ราคาเริ่มต้น 6,000 บาท


สิ่งที่ได้รับในโปรแกรม:

  • ค่าบริการทางการแพทย์ในการตรวจประเมินและให้คำแนะนำ

  • ผลิตภัณฑ์เจลสเปรย์ Colpofix สำหรับพ่นต่อเนื่อง (ระยะเวลา 1 เดือน)

  • การวางแผนติดตามผลโดยสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง

หมายเหตุ: ระยะเวลาการรักษาต่อเนื่องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกาย



happybirth clinic พร้อมดูแลเคสที่ตรวจเจอเชื้อ HPV โดยสูตินรีแพทย์หญิงเฉพาะทาง
happybirth clinic พร้อมดูแลคุณ โดยสูตินรีแพทย์หญิง

แผนติดตามผลตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงรอยโรคลุกลาม


หัวใจสำคัญของการ รักษา HPV ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ "ความต่อเนื่อง" ค่ะ


ที่ happybirth clinic เราจะวางแผนการติดตามผลให้สาวๆ ทุกเคสอย่างเคร่งครัด โดยปกติจะนัดตรวจซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อประเมินว่าร่างกายสามารถกำจัดเชื้อออกไปได้หรือยัง และรอยโรคเดิมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หากผลตรวจดีขึ้น เราจะปรับลดความถี่ในการนัด แต่หากพบความผิดปกติเพิ่มขึ้น คุณหมอจะสามารถปรับเปลี่ยนแผนการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่รอยโรคจะลุกลามค่ะ


ทำไมสาวๆ ควรได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์ happybirth clinic


การดูแลสุขภาพภายในสตรีมีความละเอียดอ่อน และต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เหตุผลที่สาวๆ ไว้วางใจให้เราดูแล เพราะเราใส่ใจใน 3 เรื่องหลักนี้ค่ะ:

  1. หมอผู้หญิง เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช เข้าใจผู้หญิงทุกช่วงวัย:  เราเข้าใจดีว่าการตรวจภายในหรือการปรึกษาเรื่อง HPV อาจทำให้หลายคนรู้สึกเขินอายหรือไม่กล้าเปิดใจ ที่นี่เราดูแลโดยทีมแพทย์หญิงล้วนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง บรรยากาศเป็นกันเอง ทำให้คุณกล้าปรึกษาได้ทุกเรื่อง

  2. ดูแลตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ตรวจพบเชื้อ การรักษา จนถึงติดตามผล:  เราดูแลคุณแบบ Continuous Care เริ่มตั้งแต่ตรวจวินิจฉัย วางแผนรักษา และนัด Re-check อย่างเป็นระบบ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะมีคุณหมอคอยประกบดูแลอย่างต่อเนื่อง ไม่ถูกทิ้งให้กังวลใจอยู่คนเดียว

  3. สะดวก เป็นส่วนตัว และสบายใจทุกครั้งที่มาพบแพทย์:  เราให้ความสำคัญกับ Privacy สูงสุด สถานที่สะอาด กว้างขวาง และมีการจัดระบบคิวที่ดี เพื่อให้คุณได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวที่สุด



FAQs: 5 คำถามคาใจ เมื่อตรวจพบเชื้อ HPV

เมื่อรู้ผลตรวจ หลายคนมักมีความกังวลใจและมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ทีมแพทย์ happybirth clinic รวบรวมคำตอบของคำถามยอดฮิตมาไขข้อข้องใจให้ค่ะ


ติดเชื้อ HPV แล้ว จะหายขาดได้ไหม?

ตอบ: "สามารถหายได้ค่ะ" โดยธรรมชาติแล้วระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราสามารถกำจัดเชื้อ HPV ออกไปได้เองภายใน 1-2 ปี แต่การดูแลตัวเองให้แข็งแรงและปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์ จะช่วยให้รอยโรคหายเร็วขึ้นค่ะ


ติด HPV แล้ว ยังมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติไหม?

ตอบ: "มีได้ค่ะ แต่ควรมีการป้องกัน" แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และหากอยู่ในช่วงที่ใช้ยาพ่น (Colpofix) แนะนำให้มีกิจกรรมทางเพศให้เรียบร้อยก่อนใช้ยา เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ


ต้องพาแฟนไปตรวจด้วยไหม แล้วติดมาจากใคร?

ตอบ: การระบุว่าติดมาจากใครทำได้ยากมากค่ะ เพราะเชื้อ HPV "สามารถซ่อนอยู่ในร่างกายได้นานหลายปีโดยไม่แสดงอาการ" การที่ฝ่ายชายไม่มีอาการ ไม่ได้แปลว่าเขานอกใจหรือไปติดจากคนอื่นมาเร็วๆ นี้ อาจจะเป็นเชื้อที่รับมานานแล้วเพิ่งตรวจเจอ ดังนั้น "ไม่ต้องโทษกัน" แต่ควรจูงมือกันมาดูแลสุขภาพ และป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติมจะดีที่สุดค่ะ


ตรวจเจอเชื้อแล้ว ยังฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ไหม?

ตอบ: "แนะนำให้ฉีดค่ะ" แม้วัคซีนจะไม่รักษาสายพันธุ์ที่ติดอยู่แล้ว แต่จะช่วย "ป้องกันสายพันธุ์อื่น" ที่เรายังไม่เคยติด ลดความเสี่ยงการติดเชื้อซ้ำซ้อนในอนาคตค่ะ


จากเชื้อ HPV จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ใช้เวลานานไหม?

ตอบ: ไม่ได้เป็นทันทีค่ะ โดยปกติเชื้อ HPV จะใช้เวลา 10-15 ปี ในการทำให้เซลล์ปากมดลูกเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นมะเร็ง การตรวจเจอวันนี้ถือเป็นโชคดีที่เราจะรักษาให้หายได้ทันท่วงทีค่ะ


คลินิกสูตินรีเวช happybirth พร้อมดูแลสาวๆ ที่ตรวจเจอเชื้อ HPV ครบวงจร
happybirth clinic คลินิกสูตินรีเวช

นัดหมายเพื่อตรวจประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณ

หากคุณตรวจพบเชื้อ HPV หรือมีความกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพนรีเวช ไม่จำเป็นต้องแบกรับความกังวลไว้เพียงลำพังค่ะ ที่ happybirth clinic เราพร้อมให้การดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจคัดกรอง การตรวจหารอยโรค และการวางแผนรักษา HPV ที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ รวมถึงการให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ Colpofix อย่างถูกวิธี ดูแลสุขภาพภายในให้มั่นใจ ด้วยการตรวจประเมินที่แม่นยำจากทีมแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญ


สามารถนัดมาปรึกษาตรวจได้ที่ คลินิกสูตินรีเวชแฮปปี้เบิร์ธ

 

เปิดให้บริการทุกวัน แนะนำให้เช็กคิวทางไลน์ @happybirth หรือโทรศัพท์ 081-442-9355 ตามเวลาทำการค่ะ เราพร้อมดูแลให้คุณกลับมามั่นใจในทุกๆ วันนะคะ 🥰



 
 
bottom of page