top of page
  • รูปภาพนักเขียนพญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)

ปวดท้องประจำเดือนทำอย่างไรดี?

อัปเดตเมื่อ 28 มี.ค.


คลินิกสูตินรีเวช ให้บริการฝังยาคุม  และถอดยาคุมราคา 2900 บาท โดยสูตินรีแพทย์
คลินิกเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช ให้บริการฝังยาคุม และถอดยาคุมโดยสูตินรีแพทย์

อาการปวดท้องประจำเดือน เป็นอาการที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องพบเจอ ไม่ว่าจะปวดเพียงเล็กน้อยและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หรือปวดรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แน่นอนว่าเมื่ออาการปวดท้องประจำเดือนกลายเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงต้องเจอในทุก ๆ เดือน ทำให้มีหลายคนเข้าใจว่าอาการปวดประจำเดือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้ว อาการปวดเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคร้ายแรงได้


เพื่อให้สาว ๆ สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมในช่วงเวลาที่มีอาการปวดท้องประจำเดือน happybirth clinic จะพาไปดูวิธีดูแลตัวเองเวลาปวดท้องประจำเดือนทำยังไงให้อาการปวดบรรเทาลง หรือหายดี พร้อมแนะนำลักษณะอาการปวดท้องประจำเดือนที่ต้องไปหาหมอ สาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวดบ่อย ๆ ห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ



ปวดท้องประจำเดือนเกิดจากสาเหตุใด?

สาว ๆ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเวลาที่เรามีประจำเดือนถึงมีอาการปวดท้อง นั่นก็เพราะว่า ในช่วงเวลาที่เรามีประจำเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกจะผลิตสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนที่มีชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ออกมา ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้มดลูกมีการบีบและคลายตัวอย่างเป็นจังหวะ และทำให้เกิดอาการปวดท้องประจำเดือนตามมา


สาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1-2 วัน และระหว่างมีประจำเดือนในช่วงวันแรก โดยจะมีลักษณะอาการปวดท้องประจำเดือนดังนี้

  • ปวดหน่วง หรือปวดเกร็งเพียงเล็กน้อย

  • ปวดอย่างรุนแรงบริเวณท้องน้อย

  • ในรายที่เป็นมาก อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหลังด้านล่าง คลื่นไส้อาเจียน ท้องผูก ท้องอืด เวียนศีรษะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสาเหตุทั่วไปที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องประจำเดือนเท่านั้น ยังมีภาวะผิดปกติอื่น ๆ อีก ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องมากผิดปกติในเวลาที่เป็นประจำเดือน และพบได้บ่อยไม่แพ้กัน เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ช็อคโกแลตซีส หรือภาวะมดลูกโต (Adenomyosis)


ภาวะผิดปกติเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องรักษาด้วยการให้ยา หรือผ่าตัดถึงจะหายเป็นปกติ ถ้าหากสาว ๆ มีอาการปวดท้องประจำเดือนบ่อย ๆ หรือปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ แนะนำให้พบคุณหมอเพื่อตรวจอัลตราซาวด์หาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมก็จะดีที่สุดค่ะ



อาการปวดท้องประจำเดือนที่ควรไปพบแพทย์

เพื่อให้สาว ๆ สามารถสังเกตอาการของตัวเองได้ง่ายมากขึ้น แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้สรุปลักษณะอาการปวดท้องประจำเดือนที่อาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติ หรือโรคร้ายต่าง ๆ และควรไปพบคุณหมอมาให้แล้ว จะมีอาการอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

  • ปวดประจำเดือนมาก และมีความรุนแรงมากขึ้นในทุก ๆ เดือน

  • มีอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงมากในช่วง 1 - 2 วันแรก

  • ปวดท้องประจำเดือนมากจนต้องรับประทานยาแก้ปวด หรือถึงข้ั้นต้องฉีดยาแก้ปวด

  • มีอาการปวดท้องอยากอุจจาระร่วมด้วย แต่เวลาที่ไปขับถ่ายก็ไม่ได้มีอุจจาระออกมาจริง ๆ

  • ปวดและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง

  • มีอาการปวดประจำเดือน ร่วมกับปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอด หรือปวดร้าวลงไปที่ขา

  • มีอายุมากกว่า 25 ปี และรู้สึกปวดประเดือนอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก

  • มีไข้พร้อมปวดประจำเดือน

  • เลือดประจำเดือนมาเยอะกว่าปกติ จนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง

  • มีประจำเดือนมาก ร่วมกับมีเลือดออกกระปริดกระปรอยในช่วงที่ไม่ได้มีประจำเดือน

  • มีอาการติดเชื้อ เช่น ตกขาวมีกลิ่น มีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด เลือดประจำเดือนมีสีแปลกไปจากปกติ เป็นต้น

  • ปวดช่องคลอดหรือบริเวณอุ้งเชิงกรานส่วนลึกเวลามีเพศสัมพันธ์

  • ปัสสาวะหรืออุจาระปนเลือดเวลามีประจำเดือน



วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มาอาการปวดท้องประจำเดือน แล้วยังไม่สะดวกที่จะไปพบคุณหมอในทันที แฮปปี้เบิร์ธคลินิกมีวิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนเบื้องต้นมาให้ก่อน สามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลตัวเองได้ค่ะ

  • ประคบร้อน ให้นำกระเป๋าน้ำร้อน หรือผ้าชุบน้ำอุ่น มาประคบที่หน้าท้อง โดยความร้อนจะเข้าไปช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่ผ่อนคลายลง ทำให้หลอดเลือดขยายตัวขึ้น เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น และช่วยบรรเทาอาการปวดให้ทุเลาลงได้

  • รับประทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) ซึ่งเป็นกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ จะช่วยออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนโพรสตาแกลนตินที่ทำให้กล้ามเนื้อบีบรัดหรือหดเกร็ง และช่วยลดอาการปวดได้

  • ออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endorfin) ที่ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยคลายเครียด และลดอาการปวดลงได้ นอกจากนี้การที่เราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ปกติด้วย

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลของเอสโตรเจน ทำให้การขับประจำเดือนเป็นไปอย่างปกติมากขึ้น และอาการปวดท้องประจำเดือนลดลง

  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงที่มีประจำเดือน เพราะจะทำให้แน่นท้อง และอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงมากขึ้น

  • พยายามไม่เครียดมากจนเกินไป เพราะความเครียดจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ในร่างกาย ซึ่งหากมีมากเกินไปจะทำให้ประจำเดือนไม่มา หรือมาไม่ปกติได้ อีกทั้งยังมีผลต่อการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำให้การทำงานของรังไข่ขาดความสมดุล จนส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องประจำเดือนมากขึ้นได้อีกด้วย



ปวดท้องประจำเดือน ควรตรวจอะไรบ้าง?

สาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวดท้องประจำเดือน ในเบื้องต้นแฮปปี้เบิร์ธคลินิกแนะนำให้มาพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจภายในก่อนค่ะ


การตรวจภายในจะเป็นการตรวจสุขภาพที่สาว ๆ ควรตรวจเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว โดยคุณหมอจะตรวจดูอวัยวะภายนอกและภายในบริเวณอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง ทั้งช่องคลอด ปากมดลูก ท่อนำรังไข่ กระเพาะ ปัสสาวะ และทวารหนัก เพื่อหาความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของความเจ็บป่วย หรือโรคต่าง ๆ


สาว ๆ คนไหนที่รู้สึกเขินอาย ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยค่ะ เพราะที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกเราให้บริการตรวจโดยหมอผู้หญิงที่เข้าใจความกังวลของผู้หญิง พร้อมที่จะช่วยให้การตรวจภายในเป็นไปอย่างสบายใจและเป็นส่วนตัวที่สุด โดยมีแพ็กเกจการตรวจภายในราคาคุ้มค่าดังนี้ค่ะ

  • ตรวจภายในทั่วไป ราคา 1,000 บาท (ไม่ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก)

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีลิควิดเบส (Liquid base) ราคา 2,000 บาท

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย HPV DNA Test ราคา 3,000 บาท

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีตรวจแบบคู่ (Liquid base + HPV DNA Test) ราคา 3,500 บาท

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี ThinPrep และตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ ราคา 3,600 บาท (แนะนำ)

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Test และตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ ราคา 4,600 บาท (แนะนำ)

  • ตรวจภายใน รวมตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี ThinPrep + HPV DNA Test (Co-Testing) และตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ ราคา 5,100 บาท (แนะนำ)

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก เราแนะนำให้เลือกแพ็กเกจที่รวมตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ไปด้วยเลยก็จะดีที่สุดค่ะ เพราะการตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยให้คุณหมอตรวจดูความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ได้อย่างชัดเจน ทำให้ตรวจคัดกรองได้อย่างแม่นยำมากขึ้นค่ะ


ถอดเข็มยาคุม ที่คลินิกสูตินรีเวช ราคา 2900 บาท
สูตินรีแพทย์ให้คำปรึกษา เรื่องปวดท้องประจำเดือน

สรุปค่ะ

จะเห็นได้ว่า อาการปวดท้องประจำเดือนที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคนนี้ มีทั้งอาการปวดท้องประจำเดือนทั่วไป และอาการปวดท้องประจำเดือนที่เป็นสัญญาณของความผิดปกติ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนรุนแรงมาก หรือมีอาการในกลุ่มอาการปวดท้องประจำเดือนที่ควรไปพบแพทย์ สามารถนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้เลยค่ะ เราเป็นคลินิกสูตินรีเวชที่ให้การดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงที่เข้าใจสาว ๆ ทุกวัย ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ผู้หญิง มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถเข้ามาใช้บริการอย่างสบายใจได้เลยค่ะ


bottom of page